พูดความจริง

ในข้อสอบ Speaking ของ IELTS คุณจะถูกถามคำถามที่เกี่ยวกับหลากหลายแง่มุมของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรก สถานที่อยู่อาศัย อาชีพ การงาน มันสำคัญอย่างไรในการตอบความจริง ซึ่งสำหรับคำตอบนั้น สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจคือข้อสอบ Speaking นั้นไม่ใช่การสนทนาธรรมดาทั่วไป คุณไม่ได้ไปพูดเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางสังคมหรือทำความรู้จักกับกรรมการผู้ให้คะแนน เป้าหมายหลักของคุณคือการแสดงให้เห็นว่าคุณเก่งภาษาอังกฤษแค่ไหน เมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้วแน่นอนว่าแต่ละคำถามที่คุณตอบจะกลายเป็นโอกาสที่ดี และจงคว้าโอกาสที่ดีงามนั้นไว้ ฉะนั้นต้องวางแผนล่วงหน้า

speaking

ส่วนที่ 1

แสดงให้ชัดเจนคือมาดูคำตอบสำหรับคำถามง่ายๆที่คุณจะเจอในช่วงที่ 1 กัน “คุณอาศัยอยู่ที่ไหน”

  1. คุณอาจจะตอบสั้นๆว่า “ในดูไบ” นี่ก็แสดงให้เห็นว่าคุณพูดความจริงแล้ว แต่มันจะทำให้กรรมการไม่สามารถรับรู้ถึงระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษของคุณเลย คุณก็จะไม่ได้คะแนนเลย
  2. อีกตัวเลือกหนึ่งคือคุณสามารถตอบว่า “ปัจจุบันผมเช่าห้องอพาร์ตเมนต์อยู่ที่นี่ในดูไบ พื้นที่ที่ผมอาศัยอยู่ห่างจากย่านธุรกิจประมาณ 10 นาที ผมชอบที่นี่เพราะ….” สิ่งที่คุณตอบอาจจริงหรือไม่จริงก็ได้ ไม่มีใครแคร์อยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือคุณได้ฉกฉวยโอกาสที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางภาษาอังกฤษของคุณ

มีหลายหัวข้อในข้อสอบ Speaking ส่วนที่ 1 ที่ค่อนข้างคาดเดาได้ อาทิเช่น บ้าน ครอบครัว การงาน งานอดิเรก และอื่นๆอีกมากมาย เตรียมวลีและสำนวนเจ๋งๆอย่างประโยคตัวอย่างด้านบนไปใช้ก็ดีนะ

ส่วนที่ 2

ในส่วนที่ 2 คุณจะต้องเลือกหัวข้อจากการ์ดที่กรรมการให้พร้อมสิ่งที่ต้องพูดสามข้อ  ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะต้องอธิบายเรื่องเพื่อนสนิท และกำหนดว่า:

  • เมื่อไหร่ที่คุณเจอเธอ/เขา
  • คุณมีอะไรเหมือนกัน
  • ทำไมเขา/เธอพิเศษกับคุณ

สิ่งที่จะต้องพูดเหล่านี้ (ซึ่งมักจะมาในรูปแบบเดียวกัน) จะทำให้คุณได้เตรียมลำดับเหตุการณ์ว่าจะพูดอะไรก่อนหลัง ฉะนั้นตัวอย่างคือคุณอาจลำดับเรื่องเป็นสามช่วงในแต่ละคำถาม “มีสามสิ่งที่เราเหมือนกัน อย่างแรกคือ……และอีกสิ่งหนึ่งที่ฉันต้องการจะพูดถึงคือ……แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเหนือประการทั้งปวงคือ…..”

พยายามสร้างลำดับก่อนหลัง วิธีนี้ไม่เพียงทำให้คุณเตรียมคำที่มีประโยชน์ล่วงหน้าเท่านั้น ยังทำให้คุณพูดได้เป็นธรรมชาติสอดคล้องกันและเข้าใจง่ายอีกด้วย

ส่วนที่ 3

ในส่วนที่ 3 คุณจะได้รับคำถามที่เกี่ยวกับหัวข้อที่ยังคงจับจ้องที่การพูดของคุณ อีกครั้งที่คุณต้องเรียนรู้สำนวนที่มีประโยชน์ใช้ตอบได้เกือบทุกคำถามเลยทีเดียว:

  • ใช่ ผมคิดเสมอว่า “Yes, I’ve often thought about that…
  • เป็นคำถามที่ยากเลยทีเดียว “That’s a big question today…”
  • ใช่ วันก่อนผมอ่านบทความเกี่ยวกับ….“Yes, just the other day I was reading an article about that…”

คำพูดสวยงามเหล่านี้ไม่เพียงฟังดูดีน่าประทับใจเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณมีเวลาเพิ่มอีกสักเล็กน้อยในการคิดว่าจะพูดอะไรต่อไป (นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าของภาษาใช้สำนวนเหล่านี้กัน)

ข้อควรระวัง

การเรียนรู้วลีและสำนวนเช่นนี้มีประโยชน์และถูกต้องตามเหตุผล เช่นเดียวกับการเรียนประโยคพื้นฐานที่ใช้ในการตอบอีเมล เช่น (“Thank you for your prompt reply) หรือที่ใช้ในบทความว่า (“It could be argued that…”) มันไม่ได้หมายความว่าคุณเตรียมท่องคำตอบทุกตัวอักษร เพราะกรรมการมีหน้าที่จับผิดคุณตรงนี้และถ้ากรรมการจับได้คุณจะไม่ได้คะแนนเลย

หลักการทางจิตวิทยา

คุณเคยคิดหรือไม่ว่าข้อสอบ Speaking ของ IELTS มันเป็นอะไรที่มากกว่าการพูดทั่วไป ในโพสต์นี้เราจะมาดูหลักการทางจิตวิทยาของข้อสอบกัน และมาคิดกันว่าคุณจะสามารถนำหลักการเหล่านั้นไปเพิ่มคะแนนให้สูงขึ้นได้อย่างไร

ในหนังสือ Thinking Fast and Slow ของนักจิตวิทยา Daniel Kahneman อธิบายเรื่องระบบทั้งสองของจิตใจมนุษย์ ระบบที่หนึ่งคือความคิดที่ไม่มีสติ นั่นคือภาพที่ประกฎอย่างต่อเนื่องของสภาพแวดล้อมของเรา รวมถึงคนที่อยู่รอบตัวเราด้วย ระบบที่สองคือการมีสติ เหตุผลเกี่ยวกับความเชื่อ การเลือก และการตัดสินว่าจะคิดอะไรและจะทำอะไร เราค่อนข้างที่จะวิเคราะห์ตัวเราเองด้วยระบบที่สอง แต่ระบบที่หนึ่งมีผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่มากกว่าที่เราคิดสะอีก นับได้สูงถึง 90% จากความคิดของเราทั้งหมด ฉะนั้นแล้วนี่มันเกี่ยวข้องอย่างไรกับข้อสอบ Speaking หล่ะ

กรรมการไม่ใส่ใจเรื่องส่วนตัวของคุณตอนที่ให้คะแนนคุณ ไม่ว่าพวกเขาชอบหรือไม่ชอบคุณก็ไม่เกี่ยวกับความสามารถทางภาษาอังกฤษของคุณเลย แต่อย่าลืมว่ากรรมการไม่ใช่หุ่นยนต์ พวกเขาเป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึกและระบบที่หนึ่งจะทำงานเพื่อใช้ในการตัดสินตัวคุณ หากคุณเป็นกันเอง สุภาพ ยิ้มแย้ม และมองไปที่กรรมการ การตัดสินของกรรมการที่มีต่อตัวคุณเป็นบวกทันที แต่หากคุณมองที่เครื่องอัดเสียงตลอดระหว่างที่คุณพูดและเดินออกไปโดยที่ไม่บอกลา เขาจะมีอคติกับคุณทันทีเช่นกัน หากคุณอยู่กึ่งกลางระหว่างสอง band score ความประทับใจอาจช่วยสะกิดให้กรรมการให้คะแนนคุณสูงขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเลยก็ได้นะ และนั่นอาจทำให้คะแนนรวมของคุณพุ่งสูงอย่างไม่น่าเชื่อ

Credit : http://blog.ieltspractice.com/