Roshni Haye เป็นหญิงสาวน่ารักอายุ 20 ปีจากประเทศปากีสถาน (เธอพูดภาษาอูรดูเป็นภาษาแม่) คะแนนข้อสอบ IELTS ของเธอคือ Band 8.5 ทำให้เธอกลายเป็นดาวเด่นขึ้นมาและให้โอกาสทุกคนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของเธอ นี่คือสิ่งที่ Roshni คิดว่าสามารถที่จะช่วยผู้สอบคนอื่นให้ทำคะแนนสูงขึ้นได้:
“ฉันคิดว่าการทำความคุ้นเคยกับรูปแบบของข้อสอบเป็นการฝึกฝนที่สำคัญอย่างมาก มันช่วยฉันได้มากในขณะที่ฉันต้องนั่งทำข้อสอบ IELTS ทั้งๆที่มีเวลาล่วงหน้าน้อย ในกรณีนี้คุณสามารถโฟกัสไปที่พลังงานทั้งหมดที่คุณมีและฝึกฝนการทำข้อสอบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ข้อที่สองคือ สำหรับข้อสอบส่วน Speaking มันสำคัญสำหรับผู้สอบทุกท่านในเรื่องความสามารถในการตอบคำถามได้อย่างคล่องแคล่ว นั่นถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ฉันจึงอยากแนะนำให้ทุกคนฝึกซ้อมไม่ว่าจะฝึกด้วยตัวเองหรือกับเพื่อนๆก็ตาม เมื่อความคล่องแคล่วของคุณเริ่มพัฒนาขึ้นแล้วคะแนนของคุณก็จะเพิ่มตามไปเอง อย่างไรก็ตามเรื่องของไวยากรณ์และคำศัพท์ก็เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับกรรมการในการให้คะแนนด้วยเช่นกัน”
ข้อสอบ Reading และ Writing ต้องการการฝึกฝน เช่นเดียวกับข้อสอบส่วนอื่นด้วย ฉะนั้นต้องทุ่มเทในการฝึกทำข้อสอบเก่าเป็นอย่างมาก จับเวลาให้ตัวคุณเองและฝึกทำข้อสอบเก่าให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อีกอย่างคือบทความเหล่านั้นในข้อสอบจะช่วยขัดเกลาทักษะความเข้าใจของคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
สำหรับข้อสอบ Writing จำเป็นมากที่จะไม่เบี่ยงเบนหัวข้อ หลีกเลี่ยงการเขียนซ้ำๆ และจะต้องมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันตลอดทั้งบทความ จุดสำคัญที่คุณต้องการอธิบายเพิ่มเติมควรมีความชัดเจนอยู่ในใจอยู่แล้วเมื่อคุณเริ่มลงมือทำ การฝึกฝนเป็นสิ่งจำเป็นอีกนั่นแหละ
สุดท้ายคือ ข้อสอบ Listening การฝึกฟังเทปจากข้อสอบเก่าหรือตัวอย่างเทปออนไลน์และดูว่าคุณสามารถเข้าใจสำเนียงต่างๆได้ดีมากแค่ไหน จากนั้นฝึกฟังคลิปต่างๆหรือบางทีอาจเป็นวิดีโอหรือหนัง (ถ้าคุณรู้สึกว่าอยากฟัง) โดยที่ไม่มีคำแปลด้านล่างและพยายามจับใจความสำคัญ ระหว่างการทำข้อสอบ ตั้งใจอ่านคำถามคุณจะได้รู้ว่าคำตอบจะต้องไปอยู่ตรงไหน เมื่อเทปเริ่มเล่นและทำตามคำสั่งอย่างระมัดระวัง
การทำ Band 9 ในข้อสอบส่วน Reading และ Listening
Thành Đỗ Hữu เป็นชาวเวียดนามโดยกำเนิด แต่ปัจจุบันอาศัยและศึกษาอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย คะแนนรวมข้อสอบ IELTS ของเขาคือ Band 8 และคะแนน Band 9 ในส่วนข้อสอบ Listening และ Reading เมื่อเราขอให้เขาแนะนำผู้สอบคนอื่นว่าทำอย่างไรถึงจะได้คะแนนใกล้เคียงกับเขา เขาแนะนำว่า:
“โดยทั่วไปแล้ว คุณต้องฝึกทำข้อสอบ จากนั้นพยายามให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับข้อผิดพลาดทุกข้อหรือปัญหาให้ได้ คุณสามารถจับกลุ่มข้อผิดพลาดหรือข้อที่ยากสำหรับคุณเอาไว้ ตัวอย่างเช่น ปัญหาเรื่องการเลือกหัวข้อที่ทำให้เสียเวลาไปมากในการทำข้อสอบเพียงไม่กี่ข้อ และอื่นๆอีกมากมาย คุณต้องแก้ปัญหานั้นให้ได้ ผมดูปัญหาของผมในกูเกิ้ลและเจอทางแก้ที่ดีมากมาย คำแนะนำส่วนใหญ่ใช้ได้ คุณต้องเลือก พยายามหาสิ่งทีเหมาะกับตัวคุณเพราะคนเราแตกต่างกัน”
สำหรับข้อสอบ Reading : จับเวลาการฝึกทำในแต่ละข้อสอบและเพิ่มความเร็วขึ้น พยายามทำช่วงแรกให้เสร็จภายในเวลา 12-14 นาที ช่วงที่สอง 15-18 นาที และช่วงสุดท้ายไม่เกิน 25 นาที ผมยังเหลือเวลาอีก 10 นาทีในช่วงสุดท้ายเพื่อย้อนกลับไปตรวจทานคำตอบและยังสามารถแก้คำตอบสำคัญได้อีกหนึ่งข้อ (ซึ่งอาจเพิ่มคะแนนครึ่ง Band ให้ผมเลยทีเดียว) พยายามสรุปใจความสำคัญในทุกย่อหน้าด้วยคำเพียงสองสามคำ เพราะสิ่งนี้จะช่วยคุณได้มากในการเข้าใจบทความทั้งหมดและหาคำตอบได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
สุดท้าย หากคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มคะแนนของคุณให้สูงขึ้นในข้อสอบ Reading คุณต้องพัฒนาเรื่องคำศัพท์ให้มาก เทคนิคพิเศษและเคล็ดลับต่างๆสามารถช่วยคุณได้เพียงบางส่วนเท่านั้น สิ่งจำเป็นที่สุดคือความสามารถที่แท้จริงเพื่อให้ได้คะแนนสูง ถ้าคุณต้องการคะแนนมากกว่า Band 8.5 ขึ้นไป ในแต่ละย่อหน้าคุณไม่ควรมีคำศัพท์ใหม่มากกว่า 1 คำ
สำหรับข้อสอบ Listening: เพื่อความสามารถในการฟังที่ดีคุณควรสามารถออกเสียงคำให้ถูกต้องด้วย ไม่อย่างนั้นคุณจะเจอปัญหามากมาย วิธีการแก้ปัญหาคำศัพท์และการออกเสียงของผมคือการดูรายการทีวีที่มีคำแปลข้างล่าง และจดทุกคำที่ผมออกเสียงผิด รวมถึงคำใหม่ด้วย ทั้งการออกเสียงและความหมาย เป็นต้น และย้อนกลับไปดูคำเหล่านั้นทุกวัน (นี่จำเป็นมากเพราะถ้าคุณไม่ทำอย่างนั้นคุณจะลืมคำศัพท์ส่วนใหญ่ภายใน 24 ชั่วโมง) ฟังดูเหมือนยากแต่สิ่งมีค่าไม่ได้มากันง่ายๆนะ
หลังจากสามารถทำคะแนนได้มากกว่า 8 ในทุกข้อสอบอย่างต่อเนื่องกันแล้ว คุณสามารถโฟกัสที่ทักษะใดทักษะหนึ่งเท่านั้น จากข้อสอบครั้งที่แล้วที่ผมทำได้ Band 8 จนมาถึง Band 9 ผมแก้ไขปัญหาเรื่องคำนามเอกพจน์และพหูพจน์ (ด้วยการตรวจและฟังคำนามในรูปพหูพจน์ที่คาดว่าจะอยู่ในคำตอบ) และคำตอบแบบตัวเลือกพร้อมข้อมูลจำนวนมากในการอ่าน ใช้เวลาในการอ่านและเตรียมตัวล่วงหน้า ผมเตรียมตัวอ่านล่างหน้าในข้อสอบส่วนทีสามในขณะที่เทปรอให้ทุกคนเตรียมตัวสำหรับส่วนที่สองอยู่ ฉะนั้นคุณต้องมีทักษะในการอ่านเร็วด้วยเช่นกัน
Credit : www.ielts-blog.com