Rohan กับ Band 8 ในข้อสอบ IELTS

Rohan อยู่ในช่วงอายุ 20 กว่าอาศัยอยู่ในอินเดียละพูดภาษาปัญจาบีตั้งแต่เกิด เขามีเวลาเตรียมตัวก่อนสอบ 2 เดือนและนี่คือสิ่งที่เขาแนะนำให้ผู้สอบคนอื่นทำตามประสบการณ์ของเขาเอง:

ผมอยากเผยประสบการณ์และเคล็ดลับของผมที่ผมเรียนรู้และนำไปใช้ในการเตรียมตัวสอบ ตอนนี้ มาถึงแต่ละช่วง

การฟัง (ผมได้คะแนน 8.5)

นี่เป็นหนึ่งในส่วนของข้อสอบที่ผมชื่นชอบ ผมฝึกหนักมากในส่วนนี้ด้วยการดาวน์โหลดหนังสือ IELTS และแบบฝึกหัดข้อสอบจากอินเตอร์เนต ผมปริ้นท์ออกมาทุกชุดและฝึกทำเหมือนข้อสอบจริง แต่ละครั้งที่คุณทำข้อสอบ คุณต้องวิเคราะห์สิ่งที่มีผลกระทบต่อตัวคุณ ว่าเป็นตัวเลขหรือชื่อ หรือข้อมูลอื่นที่อาจเข้าหูคุณเร็วเกินไปจนทำให้คุณพลาดคำตอบ คุณต้องฝึกทำข้อสอบให้มากก่อนที่จะคุ้นเคยกับวิธีที่ถูกต้องในการฟัง และยังต้องกระฉับกระเฉงในขณะที่ฟังด้วยการอ่านและเดาคำตอบที่น่าจะเป็นไปได้อีกด้วย วิธที่ผมจัดการกับการฟังได้เป็นอย่างดียังไม่จบแค่นี้ ผมเคยดูหนังฮออลีวู้ดหรือหนังภาษาอังกฤษ 3 เรื่องต่อวันและดูการโต้วาทีและการบรรยายในรายการข่าวภาษาอังกฤษอีกด้วย เชื่อผมว่าสิ่งเหล่านี้ดีกว่าอย่างอื่นอย่างแน่นอนในการทำให้สมองของคุณคุ้นชินและอยู่ในบรรยากาศของภาษาอังกฤษ

การอ่าน (ผมได้คะแนน 8 )

ผมเชื่อว่าสำหรับคนส่วนใหญ่ที่ฝึกการอ่านมากๆ นี่ไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่ต้องฝึกทำข้อสอบมากๆอยู่เสมอและตั้งใจทำตามกฎของการสอบอย่างเคร่งครัดเพราะข้อสอบส่วนการอ่านและการเขียนคุณอาจทำพลาดได้เพระเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด เคล็ดลับสำคัญคือก่อนอื่นต้องจดคำสำคัญในคำถามและจากนั้นมองหาคำสำคัญเหล่านั้นในขณะที่อ่านบทความ และอย่าลืมตรวจทานคำถามในตอนท้ายด้วย ในกรณีของผม ผมทำส่วนที่ 1 ในเวลา 10 นาที ส่วนที่ 2 ใช้เวลาประมาณ 15 นาที และที่เหลือ 5 นาทีสำหรับตรวจทายส่วนที่ 1 และ 2 ส่วนที่ 3 ยาว ฉะนั้นผมจึงแบ่งเวลาให้ส่วนนี้เยอะที่สุด จำไว้ว่าเขียนคำตอบที่คุณมั่นใจว่าถูกลงในกระดาษคำตอบ ในการปรับปรุงข้อสอบการอ่านของคุณคุณควรอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษทุกวันและข่าวจากอินเตอร์เนตอีกด้วย สำหรับการเพิ่มความมั่นใจและความรู้ผมแนะนำว่าให้ดูวิดีโอ  “Road the IELTS” ในทุกช่วงของข้อสอบด้วยเช่นกัน

คุณควรฝึกทำข้อสอบทุกส่วนเพื่อที่คุณสามารถเรียนรู้ และแก้ไขตัวเองทุกครั้งและเพิ่มความแม่นยำ อย่ากังวล ข้อสอบส่วนนี้จะไม่ยากสำหรับคุณหากว่าคุณได้เรียนรู้อย่างถูกต้องแม่นยำและทำตามเคล็ดลับเป็นอย่างดี

การเขียน (ผมได้คะแนน 7.5)

นี่เป็นส่วนที่ยากที่สุดสำหรับคนที่ไม่ได้เรียนมาทางวรรณกรรม แต่คุณสามารถจัดการกับความยากลำบากนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องพูดเพราะบทความมีความสำคัญกว่าจดหมาย แต่คุณก็ไม่ควรละเลยกับการเขียนจดหมาย ทั้ง Task 1 และ Task 2 ให้คะแนนเท่ากัน ผมทำทั้งสองส่วน ผมใช้เวลา 40 นาทีในการเขียนบทความและใช้เวลา 2-3 นาทีเพื่ออ่านทวนหรือเปลี่ยนอะไรเล็กน้อย ผมเขียนจดหมายภายในเวลา 15 นาทีเพราะมันไม่ยาก แต่ไม่สามารถตรวจทานได้ คำแนะนำของผมคือเมื่อคุณฝึกทำข้อสอบที่บ้าน ให้เขียนลงบนสำเนาของกระดาษคำตอบข้อสอบ IELTS ที่สามารถดาวน์โหลดมาได้ ด้วยการฝึกแบบนี้คุณจะรู้ว่าคุณจะต้องเขียนกี่บรรทัดเพื่อให้ครบตามจำนวนคำที่กำหนด เขียนด้วยดินสอเพื่อที่คุณจะสามารถลบและเขียนใหม่ได้ในประโยคที่ต้องการ ผมเอาดินสอเหลาจนแหลม 30 แท่งพกไปด้วยเพื่อไม่ให้เสียเวลาในการทำข้อสอบ สำหรับการเตรียมตัว ผมแนะนำให้คุณอ่านบทความให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขียนบทความให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ จำไว้ว่านักเรียนวรรณกรรมพัฒนาได้ก็ต่อเมื่อฝึกเขียนให้มากเท่านั้น

การพูด (ผมทำคะแนนได้ 8)

ข้อสอบส่วนนี้ต้องการเพียงความทุ่มเท และความพยายามในการฝึกพูดภาษาอังกฤษทุกวันเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะจำกัดอยู่แค่การพูดกับตัวเอง พูดกับเพื่อนๆของคุณ สิ่งที่ผมทำคือการโทรไปกวนพนักงานบริการลูกค้า และปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาของผมเช่นปัญหาเกี่ยวกับสัญญาณโทรศัพท์ ผมโทรไปหมายเลขที่คอยให้ความช่วยเหลือและถามข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ มีหมายเลขฟรีมากมายให้คุณใช้ อีกสิ่งคือผมเคยลอกเลียนเสียงนักแสดงในหนังที่ผมดูเพื่อฝึกการฟัง สำหรับผมนี่เป็นวิธีเดียวที่ช่วยพัฒนาทักษะทางการพูดของผมได้ และจดบันทึกคำศัพท์ใหม่ที่คุณเจอเมื่อตอนอ่านอีกด้วย

คุณอาจใช้มันในการเขียนหรือการพูดและนั่นช่วยให้คุณได้คะแนนมากขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว จำไว้ว่าอย่าเลือกคำยากในการพูด ใช้คำง่ายๆแต่แสดงออกได้อย่างคล่องแคล่ว ตัวอย่างเช่นเมื่อคุณนั่งรถบัสและเห็นร้านค้าหรือรถยนต์สักคันหรือคนที่น่ารำคาญ พยายามอธิบายสิ่งเหล่านี้เป็นภาษาอังกฤษ แน่นอนคุณไม่ควรอายกับการใช้ภาษาอังกฤษที่ไม่แข็งแรงของคุณเมื่อพูดกับตัวเอง เพราะนั่นเป็นการให้โอกาสคุณในการพัฒนาภาษาอังกฤษที่ไม่แข็งแรงนั้นทุกครั้งที่คุณแสดงความรู้สึก

Credit : www.ielts-blog.com