SAT ไม่ยากอย่างที่คิด

บททดสอบ SAT บททดสอบที่จำเป็น ผล SAT ใช้ในการรับรองความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษและด้านคณิตศาสตร์มีความจำเป็นเมื่อต้งศึกษาต่อในโรงเรียนนานาชาติในระดับปริญญาตรี หากคุณเคยได้ยินแอดมิชชั่น บททดสอบ SAT ก็เป็นบทสอบที่คล้ายคลึงกันเพื่อต้องการพิจารณาความพร้อมก่อนเข้าเรียนนั่นเอง การเตรียมความพร้อมเพื่อบททดสอบ SAT จึงเป็นการเรียนเสริมตามสถาบันที่เปิดสอน แต่สิ่งที่คุณผู้ปกครองพอจะตรวจสอบและถามไถ่ลูกหลานอยู่เป็นระยะๆ ในการเตรียมความพร้อม SAT อย่าคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องของลูกหลาน แต่ควรใส่ใจและติดตาผล ลองมาดูวิธีติดตามผลกันง่ายๆ เพื่อกระตุ้นให้ลูกหลานของคุณรู้ว่าคุณใส่ใจในผลการเรียน SAT ของพวกเขาทำอย่างไร มาดูกัน

  • ท่องคำศัพท์เป็นประจำ การเตรียมความรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษเพื่อการสอบ SAT มีเกณฑ์อยู่ 2 ข้อ นั่นคือ การทดสอบทักษะการอ่าน Reading และทักษะการเขียน Writing สิ่งที่ตัวเราพอจะกระตุ้นให้ลูกหลานของเราตื่นตัวได้อยู่เสมอนั่นคือการท่องคำศัพท์ การท่องคำศัพท์เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดที่คุณจะสังเกตความพร้อมของลูก หากลูกของคุณพร้อมที่จะท่องคำศัพท์อยู่เสมอ เขาจะภาษากายมีการทำและใจจดจ่อในสิ่งที่ท่องโดยตลอด หากเป็นแบบนี้ได้ ลูกของคุณกำลังดำเนินการอยู่ อย่าใช้เวลาคุยกับตัวเด็กมากต้องปล่อยให้เด็กมีสมาธิและดำเนินการต่อไป
  • ควรมีแบบฝึกหัดให้ลูกหลานของเราได้ฝึกฝนอยู่เป็นประจำ แน่นอนนอกจากทำได้แล้วต้องทำได้ไวอีกด้วย อาจจะคุยกับลูกดูว่าการทำแบบฝึกหัดทำซ้ำในรอบที่ 3 อาจจะช่วยลูกจับเวลาในการทำแบบฝึกหัดแต่ละครั้ง เป็นการฝึกให้ลูกสัมผัสอาการกดดันเมื่อถึงเวลาสอบ SAT จริงๆ ก็จะลดความตื่นเต้นลงได้บ้าง

เพื่อเตรียมตัวสอบ SAT นั้น ไม่เพียงแต่ตัวเด็กเองจะได้วิชาการ ความพร้อม เทคนิคการทำข้อสอบแบบต่างๆ แล้ว ตัวเด็กยังมีความภูมิใจที่ทำให้พ่อแม่ดีใจได้อีกด้วย

ให้ได้ผลควรเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้คำศัพท์ที่ดี “การเรียนให้ได้ศัพท์” จึงเป็นการเน้นเทคนิคการเรียนรู้คำศัพท์เพื่อใช้ในการสอบ SAT Scholastic Assessment Tests ให้ได้คะแนนสูงขึ้นนั่นเอง

  • หาคำศัพท์ที่ใช้บ่อยจากแนวข้อสอบเก่าย้อนหลัง ค้นคำศัพท์จากแบบฝึกหัด ยิ่งมีแบบฝึกหัดมาก คุณก็ยิ่งได้เปรียบ คั้นคำศัพท์เหล่านั้นออกมาให้ได้มากที่สุดแล้วเทียบคำศัพท์จากแนวข้อสอบเก่าก็จะพบว่ามีศัพท์หลายคำที่ออกสอบบ่อยๆ เริ่มเห็นโอกาสแล้วใช่ไหม ไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อหนังสือแพงๆ ใช้เสมอไป คุณอาจขอยืมหนังสือแนวข้อสอบเก่าจากห้องสมุด อาจจดจากหนังสือที่วางขายตามร้านหนังสือทั่วไปก็ได้ หรือดูจากเวปไซต์ College Board ซึ่งเป็นบริษัทที่วางรูปแบบข้อสอบ SAT เผยแพร่ข้อมูลให้คุณเปิดอินเตอร์เน็ตหาได้เช่นกัน
  • จดทุกคำศัพท์ลงในสมุดจดบันทึกให้หมด คำศัพท์ที่คุณหาได้จากข้อแรกและทุกครั้งที่คุณเจอคำศัพท์ที่คุณยังไม่รู้จัก อาจจะเป็นคำเรียก คำที่สื่อถึงฤดู คำที่สื่อถึงสภาพอากาศ คำนาม คำกริยา คำศัพท์อะไรก็ได้ที่คุณคิดว่าคุณยังไม่รู้ ควรมีปากกากับสมุดโน้ตเล็กๆ พกไว้กับตัวคุณไว้ตลอด เพื่อจดคำศัพท์ที่ไม่รู้จักเหล่านั้นลงไปและหาความหมายของศัพท์เหล่านั้นในภายหลัง เทคนิคในการจดให้แบ่งกระดาษออกครึ่งหนึ่งแล้วเขียนคำศัพท์ไว้ทางซ้าย คำอธิบายคำศัพท์ไว้ทางขวา เมื่อคุณต้องการทบทวนก็เพียงพับกระดาษครึ่งขวาหลบซ่อนไว้ แล้วมองทางซ้ายพร้อมกับอธิบายคำแต่ละคำออกมาให้ได้
  • ทบทวนคำศัพท์ในสมุดจดบันทึกบ่อยๆ หมั่นศึกษาทบทวนคำศัพท์ที่จดในสมุดบันทึก หมั่นทบทวนและหาคำจำกัดความให้กับคำศัพท์เหล่านั้นเพื่อให้คุณจดจำคำศัพท์เหล่านั้นได้ ซึ่งจะมีผลมาก ควรทบทวนให้บ่อยเท่าที่จะมากได้เพื่อสร้างความชำนาญทักษะในการหยิบใช้ศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว คำศัพท์ไหนที่ยังท่องไม่ได้ก็ให้จำคำจัดความที่เกี่ยวกับศัพท์นั้นก็จะช่วยให้จำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น คุณอาจจำประโยคที่ในการอธิบายความหมายของศัพท์ได้ดีกว่าการท่องจำคำศัพท์เดี่ยวๆ เพียงคำเดียว
  • ใช้บัตรจดคำศัพท์แทนสมุดจด  อีกวิธีที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้จดจำคำศัพท์ได้สะดวกและทำได้ง่ายคือการจดคำศัพท์ไว้บนกระดาษขนาดนามบัตร ทุกครั้งที่คุณหยิบบัตรจดคำศัพท์ขึ้นมาก็จะมองเห็นคำศัพท์และคำจำกัดความอธิบายคำศัพท์นั้นได้ทันที กระดาษ 1 ใบต่อคำศัพท์ 1 คำประกอบคำอธิบาย คุณจะทำบัตรจดคำศัพท์ขึ้นเองหรือหาซื้อตามร้านหนังสือที่มีจำหน่ายก็ได้เช่นกัน
  • ลองใช้แอพฯ การใช้แอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้คำศัพท์ได้เพิ่มมากขึ้น ภายในแอพฯ มีทั้งบทเรียน คำศัพท์ และเกมส์ที่ช่วยให้คุณเรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวกับการเรียนได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย