เคล็ดลับของ Akshay Deep

Akshay Deep ได้คะแนนถึง Band 8 ใน IELTS ประเภททั่วไป  ข้อสอบส่วนการฟัง (8.5) และการอ่าน (8.0) ซึ่งเขาได้ฝึกทำข้อสอบมากกว่า 35 ชุดในช่วงระหว่างการเตรียมตัวสอบ IELTS เป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน ข้อสอบเหล่านี้ช่วยให้ผมมั่นใจในการทำข้อสอบจริง

เคล็ดลับ การฟังและการอ่าน 

  1. หากลายมือของคุณไม่สวย (เหมือนผม) ขอแนะนำให้เขียนคำตอบเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ วิธีนี้จะสามารถช่วยในสถานการณ์ที่คุณไม่แน่ใจว่าควรเขียนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ หรือเล็กอีกด้วย หมายเหตุว่าคุณต้องฝึกฝนด้วยวิธีนี้หลายต่อหลายครั้ง จนกระทั้งรู้สึกชินจนสามารถนำไปเขียนในข้อสอบจริงได้
  2. ฝึกเขียนคำตอบของคุณลงในกระดาษคำตอบจริงให้เป็นนิสัย
  3. ในข้อสอบจริงคุณควรใช้ดินสอและยางลบอันเดิมที่คุณใช้ในการฝึก มันช่วยให้ผมรู้สึกคุ้นเคยกับการทำข้อสอบจริง
  4. อ่านคำสั่งอย่างระมัดระวังก่อนที่คุณจะตอบคำถาม (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำถามที่ข้อสอบกำหนดว่าคำตอบต้องมากกว่า 2 หรือ 3 คำ เป็นต้น)
  5. พยายามให้แน่ใจอยู่เสมอว่าคุณมีเวลาเหลือในช่วงท้ายข้อสอบ (ประมาณ 6-8 นาที) สำหรับทบทวน ใช้เวลานี้ให้มีประโยชน์ด้วยการตรวจการสะกดคำ
  6. สำหรับข้อสอบส่วนการฟัง ระมัดระวังในขณะที่ย้ายคำตอบจากกระดาษคำถามไปยังกระดาษคำตอบ ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดเลยเพราะคำตอบในกระดาษคำตอบเท่านั้นที่จะได้คะแนน

เคล็ดลับ การเขียน 

  1. ฝึกอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษและนิตยสารภาษาอังกฤษ ห้ติดเป็นนิสัย นิสัยการอ่านนี้จะช่วยพัฒนาการเขียนของคุณได้ด้วย
  2. ฝึกการเขียนทั้งในข้อสอบ Task 1 และ Task 2 ภายในเวลา 55 นาที ควรเหลือเวลา 5 นาทีสุดท้ายสำหรับการอ่านทวนอีกรอบ (ตรวจสอบเรื่องการสะกดคำและเครื่องหมายวรรคตอน) ผมไม่ได้ทำในส่วนนี้มากพอ ผมถึงได้คะแนนแค่ 6.5 ในข้อสอบการเขียน
  3. ฝึกงานเขียนของคุณลงบนกระดาษคำตอบจริงของ IELTS สิ่งนี้จะช่วยคุณในเรื่องของการนับคำในขณะที่ฝึกเขียนอีกด้วย อย่างที่รู้กันอยู่ว่า คุณต้องเขียนให้ได้ 150 คำใน Task 1 และ 250 คำใน Task 2

เคล็ดลับ การฟัง

  1. อย่างน้อยจนกระทั้งถึงช่วงเวลาที่คุณต้องสอบ IELTS พยายามฝึกพูดภาษาอังกฤษให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในชีวิตประจำวันของคุณ สิ่งนี้จะช่วยในเรื่องของความคล่องแคล่ว
  2. ในขณะที่พวกคุณส่วนใหญ่ใช้สมาร์ทโฟน ใช้แอพช่วยอัดเสียงในการฝึกพูด 2 นาที และฟังสิ่งที่คุณอัดเสียงไว้จะช่วยให้คุณวิเคราะห์หาข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยรู้ตัวเลยว่าผมพูดคำว่า “แบบว่า” เยอะแค่ไหน ในขณะที่ผมพูด
  3. สิ่งที่อยู่เหนือไวยากรณ์ การออกเสียงสูงต่ำ และอื่นๆอีกมากมาย ผมรู้สึกว่าความมั่นใจคือกุญแจสำคัญ คุณควรฝึกพูดอย่างมั่นใจ สิ่งนี้มีผลดีต่อการให้คะแนนของกรรมการอย่างแน่นอน
  4. ข้อสอบการพูดเหมือนการสัมภาษณ์งาน ต้องแต่งตัวให้ดี พูดเสนอตัวเองให้ดี และระมัดระวัง สุภาพกับกรรมการ เรียนรู้การใช้คำทักทายทั่วไปในช่วงเริ่มและลงท้าย อาทิเช่น การขออนุญาตเข้าห้อง ขออนุญาตนั่ง ขอบคุณกรรมการที่สละเวลา และอื่นๆอีกมากมาย

สุดท้ายนี้ ความจริงแล้วการเตรียมตัวสอบข้อสอบ IELTS เปรียบเหมือนโอกาสที่แท้จริงในการพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณ ผมหวังว่าเคล็ดลับของผมจะช่วยคุณได้ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการเตรียมตัวสอบ IELTS นะครับ

นี่คือวิธีที่ Kalpaka ใช้ในการฝึกฝน

Kalpaka อายุประมาณ 20 เป็นหญิงสาวที่ฉลาด ความพยายามของเธอส่งผลให้สอบข้อสอบ IELTS ได้คะแนนถึง Band 8.5 และคะแนนเต็ม 9 ในข้อสอบการฟัง ไม่ เธอไม่ใช้เจ้าของภาษา ภาษาแม่ของเธอคือทมิฬและเธอมาจากประเทศอินเดีย Kalpaka พูดว่า:

การฟัง

ฉันใช้หูฟังในการฝึกทำข้อสอบการฟัง แต่วันก่อนสอบจริง ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าเทปเสียงจะเปิดผ่านลำโพงในห้องสอบขนาดใหญ่ ดังนั้น ฉันขอแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการใช้หูฟังในขณะฝึกทำข้อสอบ กุญแจสำคัญในการทำคะแนนให้ได้ดีในข้อสอบส่วนนี้คืออ่านคำถามในช่วงเวลาที่จัดสรรไว้แล้วก่อนที่ย่อหน้าแต่ละย่อจะถูกเปิดเล่น ครั้งเมื่อคุณรู้ว่าเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรและคำตอบน่าจะเป็นอะไร คุณแค่ต้องตั้งใจฟังเนื้อเรื่องนั้น และสำหรับเนื้อเรื่องที่ซับซ้อน มีข้อมูลที่จะต้องฟังและวิเคราะห์มากมาย ในกรณีนี้การจดโน้ตในขณะที่เทปเสียงเปิดเล่นอาจจะมีประโยชน์ และต่อมาคุณอาจใช้คำที่จดโน๊ตไว้เป็นคำใบ้ในการเลือกคำตอบ

การเขียน

ฉันพบตัวอย่างบทความจากบล็อกนี้ที่มีประโยชน์มาก ในการเตรียมตัวสำหรับข้อสอบการเขียน กุญแจสำคัญในการทำคะแนนให้ดีในงานเขียนคือตอบคำถามทุกส่วน หากเป็นข้อโต้แย้ง ทั้งสองฝ่ายต้องมีการถกเถียงก่อนที่จะมีการลงความเห็นหรือข้อสรุป มีการกำหนดคำของงานเขียนทั้งสอง Task ด้วย การจัดสรรเรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน หากคุณอยู่ในวงการไอทีเหมือนฉันและไม่ได้เขียนด้วยปากกาหรือดินสอมานานมาก ฉันแนะนำให้พยายามจดบันทึกบทความตัวอย่างบางเรื่องเพื่อหลีกเลี่ยงคำที่อ่านยากของผู้เขียนระหว่างข้อสอบ การใช้คำศัพท์ที่ดีสามารถเพิ่มคะแนนได้มากกว่าการตอบคำถามอย่างเหมาะสม

การพูด

ข้อสอบส่วนนี้อาจเป็นส่วนที่ง่ายที่สุดในการทำคะแนนให้ดี หากคุณสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว จำไว้ว่ากรรมการพยายามช่วยคุณให้ได้คะแนนดีในขณะที่พยายามโต้ตอบกับคุณ การทำให้บทสนทนาน่าสนใจและมีข้อมูลจะช่วยให้ได้คะแนนดีในข้อสอบส่วนนี้

การอ่าน

จะมีประโยชน์อย่างมากหากฝึกอ่านข้อสอบประเภทวิชาการ หากคุณสอบข้อสอบประเภททั่วไปเพราะข้อสอบวิชาการนั้นยากกว่า และอีกครั้งกุญแจสำคัญคืออ่านคำถามก่อนและกวาดสายตาอ่านเนื้อเรื่องเพื่อหาคำตอบ การอ่านบทความทั้งหมดอาจทำให้หมดเวลา ส่วนตัวแล้วฉันคิดว่าคำถามที่เป็นกลลวงมากที่สุดคือคำถามที่ต้องเลือก true/false/not given การอนุมานบางสิ่งบางอย่างว่าถูกหรือผิดจากพื้นฐานความรู้ส่วนตัวจะมีผลต่อคะแนนในทางกลับกัน ฉะนั้นให้ดูว่าเนื้อเรื่องพูดอะไรก่อนที่จะเลือกคำตอบที่ถูกต้อง

Credit : www.ielts-blog.com