เคล็ดลับของ Otaka

วันนี้เราจะแบ่งปันเคล็ดลับที่นำไปใช้ได้จริงจาก Okata นักเรียนชาวไนจีเรีย ที่สอบข้อสอบ IELTS เป็นครั้งแรกและได้คะแนนสูงถึง Band 8  เขากล่าวว่า:

นี่เป็นการสอบ IELTS ครั้งแรกของผม ผมลงทะเบียนสอบหนึ่งเดือนก่อนวันสอบจริงและมีเวลาแค่เดือนนั้นเดือนเดียวเพื่อเตรียมตัว โดยทั่วไปแล้วการเตรียมตัวของผมทั้งหมดมาจากเคล็ดลับของ IELTS บล็อก และแอพ Road to IELTS ผมอ่านตัวอย่างบทความมากมาย ประสบการณ์ของผู้สอบ เคล็ดลับการสอบ และทำแบบฝึกหัดมากมาย ผมเชื่อว่า IELTS บล็อก เรื่อง ‘Creating a positive impression’ เขียนโดย Donna Millen เป็นเครื่องมือในการเตรียมตัวสอบที่มีประโยชน์มากที่สุดสำหรับผมในช่วงสัปดาห์ก่อนวันสอบจริง มันเป็นเคล็ดลับที่ฉลาดมาก เข้าใจง่าย และรูปแบบ

สำหรับส่วนการพูด มันสำคัญมากที่คุณต้องพูดภาษาอังกฤษให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนวันสอบจริง หลีกเลี่ยงสำเนียงพื้นเมืองและศัพท์เฉพาะให้มากที่สุด และการฝึกจับเวลาเป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน ควรฝึกพูดให้หลากหลายหัวข้อมากที่สุด มันจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการคิดตอนสอบจริง อย่าคิดถึงแต่คำตอบของคุณเพียงอย่างเดียว พูดออกมาจริงๆด้วย ตรวจเรื่องการออกเสียงด้วยเพราะเป็นเรื่องปกติของตนที่ไม่ใช้เจ้าของภาษาที่ออกเสียงคำผิดเพี้ยนไปเพราะภาษาแม่ ใช้สำนวนด้วย ผมทำคะแนนได้ 7.5 ในข้อสอบส่วนนี้

สำหรับข้อสอบส่วนการเขียน คุณต้องอ่านให้มากและฝึกเขียนด้วยตัวเอง การทำให้การอ่านน่าสนุกมากยิ่งขึ้น พยายามอ่านบทความที่คุณรู้สึกสนใจจริงๆ ตัวอย่างเช่น ผมชอบฟุตบอล ดังนั้นผมอ่านข่าวจากเว็บไซต์ Football365 ทุกวันและรู้สึกเพลิดเพลินในขณะที่ได้เรียนรู้คำศัพท์มากมายและเทคนิคการเขียนอีกด้วย

ฝึกฝนเป็นประจำ พยายามเรียนรู้คำที่มีความหมายเหมือนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับคำที่ใช้บ่อยเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้คำซ้ำ ตัวอย่างเช่น ‘rise’ และ ‘fall’ เป็นคำที่ใช้บ่อยมากในข้อสอบประเภทวิชาการ Task 1 ฉะนั้นการรู้คำที่มีความหมายเหมือนอย่างน้อยสามคำสามารถทำให้คุณเปลี่ยนใช้คำได้อย่างง่ายดาย เขียนได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และความซ้ำซากให้น้อยลง อย่างเช่นคำว่า ‘significant, large, small, rise, fall, better, worse, frequent, good, bad, healthy’ และอื่นๆอีกมากมาย เป็นคำที่คุณใช้บ่อยมากในขณะที่เขียนฉะนั้นการเรียนรู้คำที่มีความหมายเหมือนของคำเหล่านั้นช่วยได้ด้วยเช่นกัน คำเชื่อมก็มีความสำคัญมากและคุณต้องฝึกใช้ให้คล่อง โครงสร้างประโยคและการจัดเรียงเป็นสิ่งที่จำเป็นแต่การฝึกฝนสำคัญที่สุด ผมทำคะแนนได้ 7.5 ในข้อสอบส่วนนี้

ผมคิดว่าข้อสอบส่วนการอ่านเป็นส่วนที่ง่ายที่สุดจากทั้งสี่ส่วน เพราะคำตอบมักจะอยู่ในกระดาษตรงหน้าคุณเสมอ ผมตรวจคำถามก่อนอ่านบทความซึ่งปกติยาวมากอยู่เสมอ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ผมใช้สัญชาติญาณเพื่อเดาคำตอบที่น่าจะเป็นไปได้ และหาคำตอบได้อย่างง่ายดายในขณะที่กำลังอ่านบทความ อย่างไรก็ตาม  คาดเดาการใช้คำที่มีความหมายเหมือนในวลีของคำถาม คำตอบจะถูกไม่ค่อยถูกนำไปเป็นคำต่อคำจากบทความ ความแข็งแรงของการอ่านของคุณจะถูกทดสอบ ฉะนั้นคุณควรฝึกฝนทำข้อสอบเสมือนจริงอย่างหนัก เพื่อที่จะสามารถมองเห็นภาพของบทความยาวได้อย่างชัดเจน ผมทำคะแนนได้ 8.5

ข้อสอบส่วนการฟังเกือบจะออกกันตรงๆเหมือนข้อสอบส่วนการอ่าน ยกเว้นความจริงที่ว่าคุณได้ฟังเพียงครั้งเดียว นี่หมายความว่าคุณต้องมีสมาธิให้มากที่สุดและฝึกฝนมาอย่างหนัก ดูหนัง (ภาษาอังกฤษ) โดยที่ไม่มีคำบรรยายใต้ภาพ ฟังการบรรยาย คุ้นเคยกับสำเนียงอังกฤษเพราะสำเนียงสามารถทำให้คำตอบฟังดูสับสนมากกว่าปกติ พยายามใช้ช่วงเวลาหยุดพักอ่านคำถามของข้อสอบส่วนถัดไป วิธีนี้คุณสามารถ รูปแบบของบทสนทนาและเรียนรู้ว่าบทสนทนาจะบอกคำตอบที่ต้องการเมื่อไหร่ นี่ถือว่ามีความสำคัญมาก อย่าใช้เวลาคิดจนนานเกินไป แต่เขียนคำตอบลงไป หรือ คำตอบข้างคำถามและฟังต่อเพื่อหาคำตอบของคำถามข้อถัดไป ในช่วงสุดท้ายของข้อสอบ ตรวจทานคำตอบของคุณในบริบทของคำถามและตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายในข้อที่สับสน ต้องมั่นใจว่าประโยคถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ที่ให้มาในคำถาม ทำตามคำสั่ง ไม่ต้องใช้คำที่มีความหมายเหมือนหรือการเปลี่ยนคำตอบจากที่ได้ยิน เขียนให้ตรงกับสิ่งที่ได้ยิน จดโน้ตคำสั่งแต่ให้มั่นใจว่าคำตอบของคุณถูกต้องตรงตามคำถาม ผมทำคะแนนได้ 9.0

บทสรุปคือ ผมพบว่าการพูดสำหรับ 2 นาทีที่เกี่ยวกับประสบการณ์ตรงไม่ง่ายเหมือนที่ผมคิดไว้แต่แรก พยายามพูดกับผู้คน พูดกับหน้ากระจก พูดกับตัวเอง และให้มั่นใจเสมอว่าคุณพูดออกมาดังๆและไม่ใช่แค่คิดเท่านั้น มีสมาธิจดจ่อให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และอ่านคำถามที่กำลังมาในขณะที่ฟัง อ่านบทความของ และความคิดเห็นให้บ่อยครั้งมากที่สุดเท่าที่คุณจะสามารถทำได้และฝึกเขียนเป็นประจำด้วยการจัดเวลาและตามคำที่กำหนดไว้ พยายามพูดด้วยคำที่มีความหมายเหมือนทั่วไปและคำเชื่อม จัดวางให้เหมาะสม ที่สำคัญที่สุดคือ การฝึกฝน

โดยทั่วไปแล้ว ข้อสอบการอ่านและการฟังถูกตัดสินแยกจากกันและทำคะแนนให้สูงค่อนข้างง่าย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการฝึกฝน อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณจะอ่านหรือได้ยินเคล็ดลับและประสบการณ์มามากมาย แต่หากปราศจากการฝึกฝน คุณจะไม่สามารถเห็นถึงจุดอ่อนของคุณและพัฒนาปรับปรุงได้เลย ฝึกให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และกำหนดเวลาด้วย ฝึกทำข้อสอบให้ครบชุด (การฟัง ต่อด้วยการอ่าน ต่อด้วยการเขียน ทั้งหมดต้องจับเวลา) หากเป็นไปได้  ทำความคุ้นเคยกับรูปแบบของข้อสอบให้มาก และกำหนดเวลา คุณจะทำคะแนนได้สูงกว่าที่คุณทำได้ตอนนี้อย่างแน่นอน

Credit : www.ielts-blog.com