ผู้พูดภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาหลายคนคิดว่าพวกเขาสามารถได้คะแนน Band 9 ในข้อสอบ IELTS ได้อย่างง่ายดาย แค่เพียงพวกเขาพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่เกิด มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด
แม้แต่เจ้าของภาษาเองยังต้องมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี หากพวกเขาอยากได้คะแนนสูงในข้อสอบ IELTS และนี่คือคำแนะนำที่ใช้ได้ผลจริงในการเตรียมตัวจาก Angie Coleman หญิงสาวชาวอังกฤษ ที่ได้คะแนน Band 8.5 ในการทำข้อสอบ IELTS ของเธอ Angie พูดว่า
คำแนะนำที่ฉันแบ่งปันให้กับคุณเรียบง่ายมาก อย่าคิดว่าคุณเป็นเจ้าของภาษาแล้วจะสามารถทำข้อสอบได้ง่ายๆ คุณยังต้องเตรียมตัวด้วยเช่นกัน ฝึกทำข้อสอบให้เสร็จหลายๆครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าคุณรู้รูปแบบของข้อสอบและคำถามประเภทไหนจะที่คุณต้องเจอในข้อสอบ อัตราความเร็วของข้อสอบและทำความคุ้นเคยกับการเขียนบทความ (ด้วยมือ) หลายๆครั้ง
ซื้อข้อสอบแบบฝึกหัดหรือเข้าไปยังเว็บไซต์ที่มีข้อสอบแบบฝึกหัด ผมเคยทำข้อสอบฟรีสองสามชุดจากอินเตอร์เนต แต่คุณสามารถใช้ได้แค่ครั้งเดียวและคุณรู้ว่าเขากำลังมองหาอะไร ฉะนั้นมันจะไม่ได้ผลอีก จากนั้นผมจ่ายเงินเพื่อให้เข้าไปยังเว็บไซต์ได้ มีข้อผิดพลาดในข้อสอบมากมายแต่มันก็ยังช่วยให้ผมคุ้นเคยกับรูปแบบและไม่เสียเวลาในการหาข้อสอบแบบฝึกหัดฟรีอีกด้วย
ในขั้นตอนการฝึกฝน เงื่อนไขของข้อสอบไม่ง่าย ดังนั้นต้องเตรียมพร้อม ฉันอยู่ในห้องสอบตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงบ่ายสอง ในช่วงเวลานั้น ไม่มีเวลาพักเข้าห้องน้ำ (คุณสามารถไปห้องน้ำได้แต่มันก็ยังอยู่ในช่วงเวลาสอบ) ไม่มีเวลาพักกินขนม มันหนาวมากด้วยและคุณต้องมีสมาธิกับข้อสอบแต่ละส่วนเป็นอย่างมาก ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการเตรียมตัว
นอนให้เพียงพอก่อนวันสอบจริงและอย่าดื่มแอลกอฮอลล์ ดื่มน้ำมากๆก่อนวันสอบ ทานอาหารเช้าให้อิ่ม อย่าดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มมากเกินไปในช่วงเช้าก่อนสอบ ใส่เสื้อผ้าหลายชั้นในห้องสอบ คุณต้องตรวจเช็คดูเสื้อโค็ตของคุณว่าอุ่นพอหรือไม่ ฉันใส่ไปหลายชั้นแต่ฟันก็ยังสั่น
คุณย้ายจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่งในช่วงระหว่างขั้นตอนการลงทะเบียน ในช่วงสุดท้ายพยายามไปให้ช้าและเข้าห้องน้ำเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสอบ ไม่เช่นนั้นคุณจะต้องนั่งรอในห้องเป็นชั่วโมงเพื่อรอให้คนอื่นเข้าห้องด้วย
การฟัง
สำหรับตัวข้อสอบเองแล้ว ต้องมั่นใจว่าคุณโฟกัสและอย่าลื่นไหลไปกับการฟัง สิ่งนี้ทำได้ยากโดยเฉพาะถ้าคุณไม่ได้เตรียมตัวในสิ่งที่คุณฟังไปเพื่ออะไร กวาดสายตาอ่านคำถามเมื่อคุณสามารถทำได้ ดังนั้นคุณจะได้รู้ว่าคุณต้องปรับหูให้เข้ากับอะไร
การอ่าน
อ่านคำถามก่อนอ่านบทความ คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังหาอะไร เมื่อข้อสอบเป็นการจับคู่ อ่านคำถามทีละข้อและหากคุณยังไม่รู้คำตอบ ข้ามไปก่อนและค่อยกลับไปทำทีหลัง หลังจากที่คุณทำครบทุกข้อแล้ว กลับไปที่ข้อนั้นและอ่านคำถามเพื่อให้แน่ใจว่ามันดูเข้าท่า
การเขียน
ตอบคำถามให้เต็ม ใช้ไวยากรณ์และคำศัพท์ให้หลากหลาย เรียนรู้คำศัพท์เพิ่มอีก 20 คำที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปยังหัวข้อไหนก็ได้และฝึกสะกดคำเหล่านี้และคำศัพท์ทั่วไปคำอื่นด้วย ระหว่างฝึกทำข้อสอบ จะมีประโยชน์มากหากคุณพิมพ์บทความของคุณในในไมโครซอฟท์เวิดหลังจากที่ได้เขียนและสะกดแล้ว คุณสามารถเห็นข้อผิดพลาดเรื่องไวยากรณ์และการสะกดคำที่คุณอาจไม่เห็นก็ได้ แล้วนับคำด้วย หากคุณหมดข้อโต้แย้งและเขียนไม่ครบคำ ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวในการอธิบาย ต้องเขียนให้ครบตามคำที่กำหนด ไม่เช่นนั้นคุณจะถูกหักคะแนนในการเขียนคำที่น้อยกว่ากำหนดโดยอัตโนมัติ
การพูด
ฝึกฝนกับเพื่อนของคุณ ให้พวกเขาจำลองรูปแบบข้อสอบและคำถามเพื่อที่คุณจะได้รู้สึกไม่อึดอัดในการตอบคำถามด้วยวิธีนี้ ให้พวกเขาจับเวลาในแต่ละส่วนเพื่อที่คุณจะได้คุ้นเคยกับการพูดในเวลาที่กำหนด ใช้คำอธิบายให้มาก (ไม่ใช่แค่ตอบว่าใช่หรือไม่) และตอบคำถามไปเรื่อยๆจนกระทั้งกรรมการ (หรือเพื่อนของคุณบอกให้หยุด) หากคุณไม่รู้จะพูดอะไรเกี่ยวกับหัวข้อแล้ว ให้พูดถึงประสบการณ์ส่วนตัวหรือแต่งขึ้นมาเอง จำไว้ว่ามันเป็นข้อสอบวัดระดับภาษาไม่ใช่การสัมภาษณ์
Hazell สอบได้ Band 7.5 ในข้อสอบ IELTS อย่างไร
Hazell Gayatin เธอมาจากประเทศฟิลิปปินส์และพูดภาษาตากาล็อกเป็นภาษาแม่ ซึ่งเป็นการสอบ IELTS ครั้งแรกของเธอ และนี่คือวิธีการเตรียมตัวของเธอและชนะการสู้รบครั้งนี้ได้ ด้วยคำพูดของเธอเอง
สำหรับการฟัง ฉันฝึกทำแบบฝึกหัดมากมายที่เจอออนไลน์ ทุกข้อสอบที่หาได้จากเว็บไซต์ฟรี ฉันฝึกทำข้อสอบทั้งหมดตอนที่ฉันรู้สึกผ่อนคลายและอยู่ในสถานที่เงียบสงบและสบาย
ฉันยังฟังวิทยุเอฟเอ็มที่ส่วนใหญ่ดีเจคือชาวอังกฤษด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่ฉันมักจะเดาว่าสิ่งที่เขาพูดคืออะไรหากฉันฟังไม่เข้าใจในตอนแรก และจากนั้นฉันแต่งประโยคด้วยการใช้คำใหม่ในหัวข้อที่พูดถึงในประโยคนั้น
ฉันดูหนังต่างประเทศมากมายอีกด้วย รวมถึงเรื่องที่มีตัวละครพูดภาษาอังกฤษและสำเนียงยุโรปอื่นๆ อาทิเช่น เรื่อง ‘Pirates of the Carribean’, ‘Notting Hill’, ‘Bridget Jones Diary’ และอื่นๆอีกมากมาย หนังเหล่านั้นช่วยให้ฉันคุ้นเคยกับคำต่างๆไม่เช่นนั้นมันยากสำหรับฉันในการจับคำเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ
การอ่านเป็นส่วนที่ฉันมีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไปในการทำคะแนนให้ถึง Band 8 ฉันเป็นนักอ่านตัวยง ฉันอ่านหนังสือภาษาอังกฤษตั้งแต่อายุ 5 ขวบ หนังสือเล่มแรกคือหนังสือไบเบิ้ลที่คุณปู่ให้ฉันมา ตั้งแต่นั้นมาฉันอ่านนิยาย นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ทุกสิ่งอย่างที่ฉันสามารถจับจองได้ หรือแม้แต่ร้านค้าและป้ายจราจร ดังนั้นลองคิดถึงความผิดหวังของฉันที่ได้คะแนนแค่ 7 สำหรับข้อสอบการอ่าน (สะอื้น)
ฉันหวังว่า ผู้ที่จะสอบในอนาคต พิจารณาถึงสิ่งนี้ ไม่เพียงพอที่จะยึดอยู่กับการอ่านเพื่อความพอใจ คุณต้องอ่านและเรียนรู้มันด้วย ความเข้าใจ ไวยากรณ์ คำศัพท์ ทั้งหมดนี้จะต้องได้รับการไตร่ตรองพิจารณาอย่างดีโดยเฉพาะข้อสอบอย่าง IELTS สำหรับฉัน ฉันข้ามข้อสอบแบบฝึกหัดการอ่านบางชุดที่เก็บบันทึกไว้สำหรับการสอบ IELTS โดยเฉพาะ และอย่างที่ฉันบอก ฉันมั่นใจว่าจะทำคะแนนได้สูง สูงกว่า 7 ตอนนี้ฉันทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากเสียใจกับการข้ามข้อสอบแบบฝึกหัดพวกนั้นไป
บางคำถามที่ฉันเจอในข้อสอบการอ่านรวมถึงคำที่เป็นกลลวง คำที่จะทำให้ผู้สอบสับสน ฉันแนะนำให้ระวังเรื่องคำที่มีความหมายเหมือนและการถอดความอยู่เสมอเพราะคำเหล่านั้นสามารถเป็นได้ทั้งมิตรและศัตรู ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใช้คำศัพท์เหล่านั้นอย่างไร อย่างไรก็ตามจะต้องเป็นข้อได้เปรียบของคุณใช่ไหม คุณจะต้องเข้าใจคำศัพท์ในประโยค ประโยคที่สร้างขึ้นจากคำไปเป็นย่อหน้าและเป็นเรื่องราว สุดท้ายแล้วทุกๆ รายละเอียดเล็กๆและทุกส่วนของมัน จะต้องมีการศึกษาเรียนรู้และเข้าใจ คุณต้องฝึกทำข้อสอบ!
การเขียนเป็นส่วนที่ยากที่สุดสำหรับฉัน ทำไมนะหรือ ก็เพราะว่าฉันต้องการเวลาในการเขียนบทความที่ดี ข้อสอบ IELTS ให้เวลาฉันแค่ 60 นาที จริงๆแล้วยังมีหนทางและวิธีการไปยังการจบที่ดี ฉันพบเคล็ดลับที่มีประโยชน์มากเหล่านี้
- ใช้เวลา 2 นาทีเพื่อรวบรวมความคิดต่างๆ
- ภาพร่าง ภาพร่าง ภาพร่าง และ
- ฝึกเขียนด้วยมือและนับจำนวนคำเฉลี่ยต่อบรรทัดเพื่อให้รู้ว่ามีกี่บรรทัดที่คุณต้องเขียนกันแน่ในระหว่างที่ทำข้อสอบ
ในข้อสอบ IELTS คุณจะถูกหักคะแนนจากงานเขียนที่มีคำน้อยกว่าที่กำหนด 150 คำใน Task1 และน้อยกว่า 250 คำใน Task 2
เขียนจากใจ ไม่มีอะไรน่าสนใจมากไปกว่าการเล่าเรื่องราวที่คุณได้ประสบมามากกว่าการแต่งเรื่องขึ้นมาเอง ฉันโชคดีที่ได้เขียนเกี่ยวกับงานอดิเรกของฉันในข้อสอบการเขียน Task 2 คำถามทำให้ฉันมีโอกาสในการอธิบายถึงบางสิ่งบางอย่างที่ฉันรัก นั่นคือการตกปลา
ไม่ใช่ทุกวันจะเป็นวันหยุดแต่คุณสามารถหาเหตุผลบางอย่างเพื่อเฉลิมฉลองได้ จุดประสงค์ของฉันคือไม่ว่าคุณได้หัวข้ออะไร คุณสามารถลองที่จะจับจุดไปยังแนวทางที่คุณต้องการให้เป็น หากมันไม่ใช่ประสบการณ์ของตัวคุณเอง มันอาจเป็นเรื่องของคนในครอบครัวหรือญาติพี่น้อง เพื่อน เพื่อนร่วมงาน บางคนที่คุณเจอที่สนามบิน หรือจากหนังสือที่คุณเคยอ่านก็เป็นได้
ข้อสอบการพูดง่าย แต่ฉันเพิ่งรู้ว่าหลังจากทำสอบว่าฉันตื่นเต้นและกังวลมากเกินไปในเวลาเดียวกัน ปากของฉันไม่สอดคล้องกับจิตใจเลย ฉันเหมือนขับรถด้วยความเร็ว 120 บนถนนที่จำกัดความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คำแนะนำของฉันคือคุณต้องฝึกความเร็วของการพูด (อัตราความเร็วของคำและเครื่องหมายวรรคตอน) ระดับเสียง ความชัดเจน ฝึกการเปลี่ยนเสียงของคุณ
ฉันฝึกพูดอยู่เสมอหลังจากที่ฉันทำแบบฝึกหัดการฟังและการอ่าน ฉันอ่านออกเสียง อ่านบทความซ้ำไปซ้ำมา ฉันอัดเสียงตัวเองและเปิดฟังความไม่ต่อเนื่องในการออกเสียงและการเรียงลำดับคำของฉัน มันเป็นประโยชน์มากๆอีกด้วยหากคุณสามารถมีคู่บัดดี้ที่คุณสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ทางภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำ
Credit : www.ielts-blog.com