เรื่องราวของ Kingsley Raises  

หากคุณกำลังสงสัยว่าคุณจะทำคะแนนสอบ IELTS ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้หรือไม่อยู่หล่ะก็ ผมมีเรื่องราวการประสบความสำเร็จเรื่องหนึ่งมาเล่าสู่กันฟัง เรื่องราวนี้เกี่ยวกับ Kingsley ที่สามารถสมัครบรรจุกเป็นพยาบาลในประเทศอังกฤษ

Kingsley มีปัญหา  – เขาไม่ได้คะแนน 7 ในทุกส่วนของข้อสอบ IELTS นี่หมายความว่าเขาไม่สามารถบรรจุเป็นพยาบาลในประเทศอังกฤษได้ แต่ความต้องการที่แรงกล้าทำให้เขาไม่ยอมแพ้

แต่ในที่สุดผมได้คะแนนอย่างที่ผมต้องการเพื่อการสมัครเป็นพยาบาลในประเทศอังกฤษ ด้วยคะแนน 7 ในทุกข้อสอบทุกส่วน อย่างไรก็ตามผมต้องการแชร์คำแนะนำให้กับผู้สอบคนอื่น เช่นเดียวกับที่พวกเขาได้แชร์กับผม และหวังว่าความฝันของพวกเขาจะกลายเป็นความจริงเช่นกัน ขอบคุณจริงๆสำหรับความช่วยเหลือ และนี่คือเคล็ดลับของ Kingsley ในการเตรียมตัวสอบให้ประสบความสำเร็จ:

ผมจะเริ่มด้วยการพูดกับผู้สอบทุกท่านว่าความตั้งใจและความขยันเป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จในการสอบนี้  ผมใช้เวลา 3 สัปดาห์ในการเตรียมตัวและอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อวันและไม่ได้เล่นเฟสบุ๊คเลยเพราะมันจะให้คุณเสียสมาธิ

เคล็ดลับการฟัง

สำหรับผมการฟังมักจะเป็นส่วนที่หักหลังผมอยู่เสมอเพราะผมตื่นเต้นอยู่เสมอ เสียสมาธิ และดูเหมือนจะเสียความต่อเนื่องในขณะที่ฟังเครื่องเล่น อย่างที่ผมเรียนรู้มาคือคุณต้องรู้ว่าคุณกำลังฟังอะไร (สำคัญมาก) ในการฝึกฝน คุณต้องฝึกทำแบบฝึกหัดอย่างน้อย 10 ชุดไปพร้อมๆกับทำตามคำสั่งจากหนังสือ จากนั้นคุณจะเห็นว่ามันง่ายขึ้นมาก

ยิ่งไปกว่านี้ ผมตัดสินใจอ่านคำถามก่อนล่วงหน้าที่เทปจะเล่นไปถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนอ่านพูดว่า “คุณมีเวลา 3 นาทีหรือครึ่งนาทีในการตรวจทานคำตอบ” ในช่วงเวลานี้ ผมมีสมาธิในการอ่านและขีดเส้นใต้คีย์เวิร์ดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ในคำถามชุดถัดไป เพื่อที่จะได้ไอเดียในย่อหน้าต่อไป ในขณะเดียวกันในสมองของผมรู้แล้วว่าจะมีอะไรและเตรียมตัวฟังเท่านั้น พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการรบกวนจากรถวิ่งหรือเครื่องจักรหรือเสียงเรียกของโทรศัพท์

ข้อผิดพลาดทั่วไปที่พบได้บ่อยคือพวกเขาเกิดความสับสน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสุดท้ายเพราะเขาไม่สามารถจัดการกับการอ่านที่เร็ว ความเข้าใจคำถามและการเขียนในเวลาเดียวกัน ฉะนั้นยิ่งคุณอ่านคำถามได้เร็วเท่าไหร่ก่อนได้ยินคนพูดก็จะยิ่งดีเท่านั้น เมื่อตอนที่เทปบอกให้คุณอ่านคำถามข้อ X ถึงข้อ Y คุณต้องอ่านภายในไม่กี่วินาที

สุดท้าย ระมัดระวังให้มากเมื่อคุณย้ายคำตอบของคุณไปยังกระดาษคำตอบ ตัวอย่างเช่น คุณอาจเขียนคำตอบข้อแรกตรงคำถามข้อที่สามเพราะความตื่นเต้น เมื่อคุณพลาดไปหนึ่งข้อ ลืมมันไป และทำต่อ ไม่เช่นนั้นแล้วคุณจะเสียคะแนนหลายข้อจากบทความข้อต่อไปที่ทั้งเร็วและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

ความฝันของคุณจะกลายเป็นจริงและชีวิตคุณจะเปลี่ยนเพราะแรงผลักดันพิเศษ ไม่มีเวทมนตร์ใดๆในการทำข้อสอบแต่ต้องฝึก ฝึก และฝึกเท่านั้น แต่ไม่ใช่แค่ชุดเดียวซ้ำไปซ้ำมา แต่เป็นชุดที่แตกต่างกันออกไป ฝึกทำแบบฝึกหัดหลายๆชุดจากหนังสือและหนังสือของ Cambridge ออนไลน์หรือจากห้องสมุด

เคล็ดลับการอ่าน

ข้อสอบการอ่านเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สร้างความหงุดหงิดมากที่สุด เพราะมักจะเป็นเรื่องของเวลาอยู่เสมอ คะแนนของผมคือ Band 5.5 จากนั้น Band 6.5 และสุดท้ายคือ Band 7 คุณไม่จำเป็นต้องอ่านบทความเพื่อให้เข้าใจความหมายทั้งหมด แต่สิ่งที่คุณต้องรู้คือคุณกำลังมองหาอะไร ผมค้นพบว่าคำถามที่ต้องเติมลงในช่องว่างมักจะอยู่ในย่อหน้าเดียวเสมอและอยู่เรียงกันตามลำดับ ฉะนั้นเป็นการประหยัดเวลาให้ผมได้มากเลยทีเดียว

เพื่อประหยัดเวลา หากคุณเห็นว่าคำถามใดก็ตามในข้อสอบการอ่าน พยายามเจาะย่อหน้าให้ถูกต้องอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเติมเต็มคำถามเหล่านี้ก่อน เพราะเราสามารถลอกคำตอบจากเนื้อเรื่องไปยังช่องว่างได้ สิ่งนี้จะช่วยประหยัดเวลาได้มาก โดยเฉพาะในคำถามช่วง True False และ Not given คำถามช่วงนี้ใช้เวลาทำเยอะเพื่อให้เข้าใจเนื้อหาของแต่ละย่อหน้า จำไว้ว่าคุณต้องอ่านคำสั่งและอย่าเติมคำมากหรือน้อยกว่าคำที่เขากำหนดให้

อย่าตื่นเต้นตกใจเพราะจะทำให้คุณอ่านแต่ไม่เข้าใจ เนื้อเรื่องและคำตอบมักจะพยายามทดสอบความสามารถของคุณในเรื่องคำที่มีความหมายเหมือนด้วยเช่นกัน ฉะนั้นพยายามเพิ่มพูนคำศัพท์ของคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยการฟังข่าวภาษาอังกฤษและอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ อย่าง “The Economist” ที่มากไปกว่านั้นคือหากคุณไม่รู้ความหมายของคำศัพท์นั้น อ่านทั้งประโยคแล้วเดาความหมาย

ตั้งเป้าหมายไปที่คะแนนที่สูงที่สุดอยู่เสมอ นักเรียนหลายคนจะพูดว่า “ฉันต้องการแค่ 5.5 ในการเรียนต่อมหาวิทยาลัย” และพวกเขาจะไม่กระตือรือร้นในการอ่านหนังสือให้มากขึ้น ไม่ใช้พบแค่ว่าเสียเงินอย่างเดียวแต่ไม่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ด้วย เวลาไม่คอยใครและโอกาสไม่ได้มากันบ่อยๆ

เคล็ดลับการเขียน

การเขียนย่อหน้าและการใช้คำเชื่อมต่างเป็นสิ่งสำคัญมากเช่นกัน แต่งประโยคสั้นๆง่ายๆ อย่าซับซ้อนเกินไปเพราะจะให้น่าเบื่อ การพูดซ้ำจะทำให้คุณเสียคะแนน (ตัวอย่างเช่น การใช้ “and” เชื่อมประโยคบ่อยจนเกินไป

ดูที่ตัวอย่างบทความอื่นที่ได้คะแนน Band 8 หรือ 9 และพยายามศึกษา แต่อย่าลอกมา เพราะจะทำให้คุณออกนอกเรื่องในขณะที่เขียนบทความขึ้นมาใหม่อย่างแน่นอน หาใครสักคนอ่านบทความของคุณ คิดว่าคุณทำดีที่สุดแล้วแต่จริงๆแล้วไม่ได้มีการพัฒนาขึ้นเลย เหมือนกับว่าคุณกำลังขับรถคันเก่าที่กินน้ำมันแต่ขับได้ช้ามาก ซึ่งนี่เป็นปัญหาหลักของผม

เคล็ดลับการพูด

ผมได้คะแนน 7.5 และ 8 และจากนั้น 7 สำหรับผมแล้วการพูดเป็นส่วนที่ผมรักมากที่สุด ผมรู้ว่าหลายคนไม่คิดเช่นนั้น คำแนะนำของผมคือปล่อยให้กรรมการเห็นว่าคุณพยายามพูดอย่างเต็มที่ ทั้งๆที่กรรมการรู้อยู่แล้วว่าภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของคุณ

อย่ากลัวหรือกังวลเพราะกรรมการได้รับการอบรมมาให้เป็นกันเอง คำถามช่วง cue card ใช้เวลา 2 นาทีในการพูดซึ่งสำคัญมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการไม่รู้ว่าจะพูดอะไร วางแผนคำตอบด้วยคำถามดังต่อไปนี้:

  • เกิดขึ้นที่ไหน
  • มีใครเกี่ยวข้องบ้าง
  • เกิดขึ้นอย่างไร
  • เกิดขึ้นเมื่อไหร่
  • เกิดอะไรขึ้น

เมื่อคุณวางแผนด้วยวิธีนี้แล้ว คุณจะสามารถพูดได้ยาวขึ้น ดีกว่าที่จะพูดติดๆขัดๆหลังจากผ่านไปแล้ว 30 วินาที ขอให้เพื่อนๆโชคดี

Credit : www.ielts-blog.com