ป้ายกำกับ: เรียนภาษาเยอรมัน

ค่าใช้จ่ายต่างๆเมื่อต้องไปเรียนต่อ

Published / by Language Tutor

ไม่ว่าจะไปเรียนต่อที่ไหน แน่นอนว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการใช้ให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด โดยเฉพาะการร่ำเรียนที่ประเทศเยอรมัน ที่หลายคนต่างก็ยกนิ้วให้ว่าเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่มีมากมายหลายแห่งให้เลือก อีกทั้งยังมีค่าเทอมที่แสนถูก นั่นเพราะต้องการให้เด็ก ๆ ในประเทศมีโอกาสได้เรียนกันทุกคน แม้จะมีฐานะยากจนก็ตาม ซึ่งบางคนอาจหารายได้เสริม  ทำให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้แบบสบาย ๆ กับการจ่ายค่าเทอม ค่ากินและค่าที่พัก เกี่ยวกับการเรียนที่เยอรมัน จะต้องมีการวางแผนการใช้เงินในการเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ  ซึ่งเรามีข้อมูลคร่าว ๆ มาฝากกันเผื่อใครอยากรู้เพื่อเก็บเงินไปเรียนให้พอ  เป็นการประมาณการค่าใช้จ่าย จะได้ไม่เดือดร้อนภายหลัง

ค่าใช้จ่ายต่างๆ

ทำไมต้องเรียนที่เยอรมัน

เพราะที่เยอรมันมีมาตรฐานการศึกษาสูง เป็นหนึ่งในประเทศในโลกที่มีองค์ความรู้ และวิชาการสายการแพทย์  วิศวะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีต่างๆ  มากมายและมีคุณภาพ รวมทั้งเป็นแหล่งผลิตภัณฑ์หลายๆอย่าง เช่น เบนซ์BMW เคมี การแพทย์ต่าง ๆ  นอกจากนี้ยังมีทุนเรียนฟรีเพราะผู้เรียนมีโอกาสขอทุนได้มาก ส่วนค่าเทอมก็ไม่แพงมากเกินไป จนเกือบเรียกว่าเรียนฟรี   ซึ่งที่เยอรมันยังเป็นประเทศสวยงาม ทั้งธรรมชาติ และวัฒนธรรม ประเพณี ที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง บรรยากาศดี ภูมิอากาศหลากหลาย ที่สำคัญทำให้สามารถท่องเที่ยวได้หลายประเทศ  เพราะเยอรมันตั้งอยู่กึ่งกลางของยุโรป สามารถใช้วีซ่าเชงเก้นร่วมกันได้  ทำให้สามารถไปเที่ยวหาประสบการณ์ได้หลายประเทศ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่มีบัตรนักเรียนถูกมากเพราะค่าตั๋วรถไฟต่างๆก็จะมีส่วนลด รวมทั้งค่าที่พักด้วย

ค่าใช้จ่ายในการเรียน

ค่าที่พัก

ค่าที่พักในเยอรมัน ราคาจะอยู่ที่ 80-200 ยูโร ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับว่าคุณจะพักหอนักเรียนหรือหอพักเอกชน  ห้องเดี่ยวห้องน้ำส่วนตัว หรือ ห้องเดี่ยวแชร์ห้องน้ำกับคนอื่น เพราะหากเป็นฝั่งเยอรมันตะวันออกจะไม่ค่อยแพง แต่ถ้าเป็นฝั่งเยอรมันตะวันออกหรือเป็นเมืองเศรษฐกิจ เมืองสำคัญที่มีค่าที่พักที่แพงขึ้นไปอีก

ค่าประกันสุขภาพ

ค่าประกันสุขภาพอยู่ที่ราคาประมาณ 30 -75 ยูโร อันนี้บังคับ เพราะต้องซื้อทุกเดือน หากได้ทุนเรียน ทางทุนจะหักค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปจากเงินเดือน  ส่วนใครที่ซื้อเองก็ลองดู ว่าอันไหนดี และถูก

ค่าเทอม  

การจ่ายค่าเทอม หลายคนคิดว่ามันอาจจะแพงมาก แต่ตรงกันข้าม เพราะต่อปีเสียปีละ 2 ครั้งๆ ประมาณ 200-500 ยูโร  ถ้ามหาวิทยาลัยทางฝั่งตะวันออก จะต้องจ่ายค่าเทอมจะถูกไม่ถึงหมื่นบาท ถ้าทางเยอรมันตะวันตก ค่าเทอมของบางเมืองก็จะแพงหน่อย มีเรื่องที่อาจจะดูงงๆนิดหนึ่งอยู่ตรงที่ว่าเพื่อนของผมต้องไปเรียนต่อปริญญาโท บางเมืองมหาวิทยาลัยจะคิดเงินทั้งหมด แต่บางเมือง ทุกมหาวิทยาลัยกลับเรียนฟรี แต่ที่งงคือ ทำไมมันพร้อมใจเป็นอย่างนี้กันทั้งเมืองเลย

ค่าอาหารการกิน

วิธีการประหยัดค่ากินก็คือ ซื้อกับข้าวไว้เป็นอาทิตย์ อย่างพวกหมู ไก่ ไข่ นม พิซซ่า น้ำอาทิตย์ละประมาณ 50 ยูโร จริงๆน้ำดื่มจากก๊อกได้ฟรีด้วย  ข้าวถุงซื้อเดือนละถุงๆละ 5 กก.หรือเวลาออกไปทานข้าวข้างนอกก็อาจจะแชร์กันก็ได้  หากจะทำอาหารเองก็สามารถทำได้ เพราะในแต่ละเมืองจะมีแหล่งไชน่าทาวน์ ที่มักจะมีแหล่งขายวัตถุดิบที่นำมาทำเป็นอาหารเหมาะ และถูกปากสำหรับคนบ้านเรา เพราะเป็นแนวๆเอเชียเหมือนกัน หรือว่าเราสามารถพกผงสำหรับปรุงอาหาร ไปทำอาหารได้ เรานิยมเรียกว่าผงโลโบ ซึ่งก็เป็นยี่ห้อที่เราสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตบ้านเรา ที่สำคัญคือ อร่อยเหมือนกินข้าวอยู่เมืองไทยเลยทีเดียวนะ

ค่าเสื้อผ้า

ถ้าไม่ใช่คนแต่งตัวมาก ไม่เน้นแฟชั่นมากมาย หากมีเสื้อผ้าจากเมืองไทยไปก็สามารถนำมาใส่ซ้ำๆ กันได้ แค่เน้นความสะอาด กลิ่นหอม ๆ ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มจะได้หอมๆ คนเยอรมันบางคน กางเกงยีนส์เดือนนึงใส่เกือบทุกวัน แถมยังซักหนเดียวอีกด้วย  แต่หากเจอเสื้อผ้าลดราคาหรือที่คิดว่าเมืองไทยไม่มีก็อาจจะซื้อเก็บไว้บ้างก็ได้ หากไม่ใช่คนแต่งตัวและไม่ใช้ของแบรนด์จะทำให้เงินเหลือเก็บไปเที่ยวยุโรปได้แบบสบาย ๆ

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ถ้าไม่ไปเที่ยวก็เก็บเงินไว้ซื้อของ ถ้าไม่ซื้ออะไร ไม่ไปไหน ก็จะทำให้เงินเก็บเหลือเยอะ แต่ถ้าทั่วไป จะยืนพื้นอยู่ที่ 500-550 ยูโร ต่อเดือน ในกรณีที่ไม่เที่ยว ไม่ช้อป  อาจจะมีเหลือเก็บไว้บ้าง สำหรับซื้อหนังสือหรือกรณีฉุกเฉินเหตุการณ์ไม่คาดฝัน  เรียกว่าขอให้มีเงินติดตัวไว้ก่อน หากใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นก็จะทำให้มีเงินเหลือเก็บสำหรับค่าเทอม และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นแน่นอน

นอกจากค่าใช้จ่ายดังกล่าวแล้วอย่าลืมว่าอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายประจำปี อย่างการต่อวีซ่า ซึ่งคุณต้องมีเงินในบัญชีอยู่เท่าไหร่จึงจะไม่มีปัญหาในการได้วีซ่า ส่วนใครที่เป็นนักเรียนทุนอาจจะไม่มีปัญหาเพราะมีใบรับรองจากทางมหาวิทยาลัยนั่นเอง ซึ่งคนที่ไปเรียนด้วยตัวเองก็ต้องหมั่นเช็คข้อมูลด้วย อีกทั้งค่าครองชีพและค่าเงินที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง แม้จะคำนวณเงินไปแบบคร่าวๆ  แต่หากเตรียมพร้อมให้มากกว่านั้นเผื่อความจำเป็น ก็จะทำให้คุณไม่ต้องกังวลถึงค่าใช้จ่ายในอนาคต ยิ่งหากได้ทำงานพิเศษไปด้วย จะยิ่งทำให้คุณมีเงินเก็บมากขึ้น