เคล็ดลับในการเตรียมตัวสอบ TOEIC

คุณอยากได้งานที่ต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษหรือไม่ งั้นขอถามคำถามสำคัญอีกข้อหนึ่ง เคยสอบข้อสอบ TOEIC หรือยัง? ผลการสอบ TOEIC ทั้งในส่วนของการฟังและการอ่านจะเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งในเรซูเม่ของคุณเลยทีเดียว ข้อสอบมีการรวมเอาทั้งข้อสอบวัดระดับความเข้าใจทั้งในส่วนของการฟังและการอ่าน ซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกประหม่าได้ แต่อย่าเพิ่งกังวลไป!

คุณอยากรู้ไหมหล่ะว่าทำอย่างไรถึงจะได้คะแนนสูง คุณอยู่ถูกที่แล้วหล่ะ เคล็ดลับและคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายอย่างแน่นอน และที่ดียิ่งไปกว่านั้นคือในโพสต์นี้เราจะฝึกไปด้วยกัน เพราะตามพื้นฐานทั่วไปแล้วการเตรียมตัวสอบ TOEIC ที่ดีที่สุดคือ การฝึก ฝึก และฝึกมากขึ้นไปอีก เหตุผลก็คือการฝึกเป็นสิ่งที่จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นได้ เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญเลยทีเดียว

ข้อสอบ TOEIC ย่อมาจาก the Test of English for International Communication เป็นข้อสอบที่ใช้ทดสอบความสามารถของคุณในการเข้าใจการเขียน คำสั่ง และบทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับงาน ทั้งภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาพูดและภาษาเขียน

จำไว้ว่าข้อสอบการฟังและการอ่านของ TOEIC ไม่มีส่วนของข้อสอบการพูด ฉะนั้นก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ต้องคิดมาก และยังเป็นข้อสอบที่ไม่มีผ่านหรือตกอีกด้วย นั่นหมายความว่าการทำข้อสอบนี้จะทำให้คุณโดดเด่น (เป็นที่สังเกต) ท่ามกลางผู้เข้าสอบ (ผู้สมัครงาน) ที่ไม่มีผลการสอบนี้

รูปแบบข้อสอบ คือตัวเลือก ดินสอ และกระดาษ มีข้อสอบสองส่วน คือข้อสอบส่วนการฟัง (100 คำถาม) และข้อสอบส่วนการอ่าน (100 คำถาม) ระยะเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ข้อสอบส่วนการฟังใช้เวลา 45 นาที ข้อสอบส่วนการอ่านใช้เวลา 75 นาที และจากนั้นมีเวลา 30 นาทีเพื่อตอบคำถามที่ไม่มีคะแนนเกี่ยวข้อมูลส่วนตัวของคุณ ระดับคะแนน ตั้งแต่ 10 – 990 ยิ่งคะแนนสูงยิ่งดี ในส่วนของการอ่านและการฟังคุณสามารถทำคะแนนได้ตั้งแต่ 5-495 คะแนนในแต่ละช่วง และจากนั้นคะแนนทั้งสองช่วงจะถูกบวกเข้าด้วยกันเป็นผลคะแนนรวมทั้งหมด คะแนนสูงกว่า 785 ถือว่าดีมากแต่บางครั้งนายจ้างก็ไม่ได้มองหาคนที่มีคะแนนสูงเสมอไป มันขึ้นอยู่กับหน้าที่รับผิดชอบของงานนั้นมากกว่า การันตีได้ว่าคุณตั้งเป้าไว้ที่มากกว่า 550 คะแนนแน่นอน

นี่คือเคล็ดลับที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการเตรียมตัวสอบ TOEIC ให้ดีที่สุด

  1. ตั้งเป้าหมาย ถ้าคุณตัดสินใจสอบ TOEIC ขอแสดงความยินดีด้วย และสิ่งแรกที่คุณควรทำคือตั้งเป้าหมาย ถ้าคุณสอบเพื่อที่จะสมัครงาน ให้ลองหาว่างานนั้นต้องการความสามารถในระดับไหน ตั้งเป้าหมายที่คุณสามารถทำได้ ถ้าคุณคาดหวังสูงเกินไป คุณจะผิดหวัง จำไว้ว่าคุณสามารถสอบได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการถ้าคุณมีกำลังทรัพย์มากพอ
  1. เข้าใจข้อสอบ ก่อนเริ่มทำการเรียนรู้ข้อสอบ มั่นใจว่าคุณเข้าใจรูปแบบของข้อสอบแต่ละส่วน คุณจะถูกทดสอบในเรื่องของทักษะทางการฟังและการอ่าน ด้วยการทำตามแบบหรือการฝึกทำข้อสอบคุณจะเคยชินกับข้อสอบ TOEIC เป็นอย่างมาก ข้อสอบควรกลายเป็นนิสัยติดตัวคุณก่อนที่จะสอบจริง
  1. วางแผนการเรียน การผัดวันประกันพรุ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้นักเรียนสอบไม่ผ่าน TOEIC คุณอาจจองที่นั่งสอบล่วงหน้าเป็นเดือน แต่อย่างไรก็ตามวันที่คุณตัดสินใจจะสอบ TOEIC ควรจะเป็นวันที่คุณเริ่มอ่านหนังสือ คุณจะต้องตัดสินใจว่าจะฝึกฝนด้วยตัวเองไปพร้อมๆกับข้อมูลที่เชื่อถือได้หรือคุณจะไปเข้าเรียนคลาสก่อนสอบ TOEIC กันแน่ เพื่อที่จะได้ผลคะแนนที่ดีที่สุดคุณควรเลือกทำทั้งสองอย่าง หากคุณคิดว่าการเข้าคลาสแพงเกินไป ให้มั่นใจว่าเลือกหนังสือเตรียมสอบ TOEIC เล่มที่มีการอธิบายเฉลย คุณต้องการครูหรือติวเตอร์ที่คุณสามารถปรึกษาได้อยู่ตลอดอีกด้วย ถ้าคุณเลือกเข้าคลาส TOEIC ต้องมั่นใจว่าคุณมีความเชื่อมั่นในครูของคุณและไม่อึดอัดเวลาอยู่ในคลาส เข้าคลาสพร้อมเพื่อนและตั้งใจเรียนด้วยกันทั้งในและนอกคลาส การอ่านทบทวนในช่วงเวลาเดียวกันของวันก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดีที่ช่วยเพิ่มคะแนนของคุณ จดแผนการเรียนของคุณและตั้งใจทำให้ได้
  1. แบ่งเวลาเรียนให้เหมาะสม ในแต่ละส่วนของข้อสอบทุกคะแนนมีค่า อย่าใช้เวลาทบทวนข้อสอบส่วนใดส่วนหนึ่งมากเกินไป นักเรียนหลายคนทำผิดพลาดด้วยการเลือกทำแต่ส่วนที่ตัวเองชอบมากที่สุด แต่จริงๆแล้วนี่เป็นส่วนที่คุณควรใช้เวลาน้อยที่สุดในการทบทวน คุณอาจต้องแบ่งเวลาการเรียนของคุณแต่ละสัปดาห์เพื่อเน้นไปที่ข้อสอบส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นพิเศษ จำไว้ว่าถ้าวันอาทิตย์เป็นวันที่คุณต้องฝึกส่วนที่ 7 (40 ข้อ) คุณอาจจะต้องฝึกทำสองครั้งเช่นเดียวกับที่คุณทำวันจันทร์ในส่วนที่ 1 (20 ข้อ)
  1. สร้างคลังคำศัพท์ให้มากขึ้น เหตุผลอีกข้อที่นักเรียนสอบไม่ผ่านข้อสอบ TOEIC นั่นคือพวกเขารู้คำศัพท์น้อย วันที่ตัดสินใจจะสอบ TOEIC คุณควรทำให้ตัวเองเหมือนพจนานุกรมที่ว่างเปล่า ใช้สมุดโน้ต (แนะนำสมุดจดที่อยู่เพราะมีการแบ่งช่องตัวอักษร) และค่อยๆเก็บคำศัพท์ที่คุณรู้ไปเรื่อยๆ มันจะไม่มีประโยชน์เท่าไหร่หากคุณท่องคำศัพท์ที่รวบรวมเอา คุณจะแค่จำคำศัพท์ที่คุณเห็นในบริบทเท่านั้น ในแต่ละส่วน เขียนคำศัพท์และฝึกแต่งประโยค ในช่วงปลายสัปดาห์คุณควรเขียนจดหมายสั้นๆหรือเรียงความที่ใช้คำศัพท์ใหม่ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

นี่จะเป็นเวลาที่ดีที่คุณจะเลิกใช้พจนานุกรม การใช้พจนานุกรมอิเลคทรอนิคส์ง่ายเกินไป คุณจะไม่จำคำศัพท์เลยถ้าคุณไม่ใช้ความพยายามในการเข้าใจด้วย ระลึกอยู่เสมอว่าข้อสอบ TOEIC มีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับธุรกิจ คุณควรเรียนรู้คำศัพท์จากหัวข้อต่างๆ อาทิเช่น การท่องเที่ยว ธนาคาร สุขภาพ ร้านอาหาร ที่ทำงาน และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งคุณจะต้องเรียนรู้การใช้สำนวนในชีวิตประจำวันด้วยเหมือนกัน

  1. แยกจุดอ่อนของคุณออกมา หลังจากคุณเรียนรู้การทำข้อสอบ TOEIC ไปสักระยะหนึ่งแล้ว คุณจะค้นพบว่าคุณมีปัญหากับส่วนไหนมากที่สุด คุณอาจต้องเปลี่ยนการแบ่งเวลาเรียน อาจมีหลักไวยากรณ์เฉพาะจุดที่นักเรียนหลายคนทำไม่ได้ หากคุณเข้าคลาสเรียน TOEIC คุณควรบอกให้ครูของคุณให้การบ้านพิเศษเพื่อช่วยลดปัญหาเหล่านี้ แต่หากคุณฝึกด้วยตัวเองให้หาหนังสือในห้องสมุดและมองหาคำถาม หรืออาจค้นจากอินเตอร์เนตก็ได้ ตัวอย่างเช่น พิมพ์คำว่า “gerunds” ลงไปและคุณจะเจอกับแบบฝึกหัดที่มีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว
  1. จำกัดตัวหลอก ในข้อสอบทุกข้อของ TOEIC มีตัวหลอกอย่างน้อยสองข้อ (คำตอบผิดที่ผู้ทำข้อสอบใช้เพื่อให้คุณหลงกล) มันง่ายกว่าเยอะที่จะเลือกคำตอบที่ถูกต้องจากจากตัวเลือกแค่สองข้อ (ตัวเลือกที่สามมักจะไม่มีความเป็นไปได้และมองออกได้ง่าย) มีตัวหลอกหลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น คำพ้องรูปพ้องเสียง คำซ้ำ และอื่นๆอีกมากมาย ในขณะที่คุณกำลังทบทวนอยู่นั้น รวบรวมตัวหลอกที่เจอเอาไว้ เพราะเมื่อคุณเจอคำพวกนี้แล้วคุณจะสามารถจำกัดมันออกไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
  1. เชื่อในสัญชาติญาณของคุณ บางครั้งคำตอบจะโถมเข้าหาคุณทั้งถูกและผิด ถ้าคุณได้ฝึกฝนมาอย่างหนักแล้ว จะมีโอกาสสูงขึ้นที่สมองของคุณจะบอกเองว่าคุณจะเลือกข้อไหน อย่าเปลี่ยนคำตอบถ้าคุณเชื่อในสัญชาตญาณ แต่ถ้าเกิดคุณตัดสินใจเปลี่ยนคำตอบแล้วให้มั่นใจว่าคุณลบอย่างระมัดระวัง เพราะใช้เครื่องในการตรวจคำตอบ มั่นใจว่าใช้ดินสอและฝนคำตอบให้เต็มวง คุณอาจเอาดินสอ ยางลบ และที่เหลาดินสอเพิ่มไปได้
  1. อย่างพยายามแปล การแปลคำศัพท์และประโยคเสียเวลามาก เป็นการยากมากๆที่นักเรียนจะมีเวลาเหลือระหว่างการทำข้อสอบ TOEIC ถ้าคุณไม่รู้คำศัพท์ให้ดูที่บริบทของประโยคและคำที่อยู่ข้างๆ ไม่อนุญาตให้คุณใช้พจนานุกรมระหว่างที่ทำข้อสอบ
  1. ถ้าไม่มีทางเลือกแล้วให้เดา ในวันสอบ ถ้าคุณไม่รู้คำตอบ และคุณกำจัดตัวหลอกออกไปแล้วแต่ก็ยังตอบไม่ได้ อย่างปล่อยว่างไว้ มีความเป็นไปได้สูงที่คุณจะไม่มีเวลากลับไปทำ แต่คุณจะมีโอกาสตอบถูกสูงถึง 25% หากคุณเดา ถ้าคุณมั่นใจว่าคำตอบข้อหรือสองข้อผิด การเดาของคุณก็มีโอกาสถูกมากขึ้นไปอีก
  1. ระวังเรื่องการจัดสรรเวลา ในขณะที่คุณทำข้อสอบอยู่นั้น คุณควรระวังเรื่องเวลาอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ตัวเองฝึกฝนไปเรื่อยๆ คุณจะต้องเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ในวันสอบคุณควรระวังในส่วนของการอ่านโดยเฉพาะ คุณมีเวลา 75 นาทีในการทำข้อสอบช่วงที่ 5 6 และ 7 ให้เสร็จ นักเรียนหลายคนใช้เวลาในการทำข้อสอบช่วงที่ 5 และ 6 มากเกินไปเพราะพวกเขาพบว่ามันเป็นส่วนที่ยากที่สุด อย่าใช้เวลาเกินกว่า 30 นาทีในสองช่วงแรก ช่วงที่ 7 จะใช้เวลาอย่างน้อย 40 นาทีและคะแนนสูงด้วยโดยเฉพาะถ้าคุณคิดว่ามันเป็นส่วนที่ง่าย
  1. ฟังอย่างเร็ว ในขณะที่คุณฝึกทำข้อสอบ TOEIC อย่าย้อนเทปกลับจนติดเป็นนิสัย เพราะวันสอบจริงคุณจะไม่มีสิทธิ์ควบคุมความเร็วของข้อสอบส่วนการฟัง คุณจะไม่มีแม้แต่เวลาให้คิดนานในแต่ละคำถาม ต้องมั่นใจว่าตามให้ทันทุกคำถาม ถ้าคุณไม่รู้คำตอบให้อาศัยการเดา จากนั้นทำต่อไปให้ทัน อย่ามองกลับไปที่คำถามที่แล้วในขณะที่คุณกำลังรอตอบคำถามใหม่
  1. ฝึกการอ่านออกเสียง การอ่านออกเสียงจะช่วยในเรื่องของทักษะการฟังและการอ่าน เพื่อให้เข้าใจภาษาอังกฤษให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นมันสำคัญมากที่คุณจะเข้าใจเสียงสัมผัสของภาษา อ่านจากหนังสือเรียน แผ่นพับ หนังสือพิมพ์ และแม้กระทั้งนิยายสำหรับเด็ก คุณอาจอัดเทปเสียงตัวเองและฟังดูว่าคุณออกเสียงเป็นอย่างไร
  1. ใช้สื่อต่างๆ วิธีเตรียมตัวสอบ TOEIC ที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งคือการเรียนรู้จากภาษาอังกฤษที่เกิดขึ้นจริง เช่น การดูทีวี ฟังรายการวิทยุ อ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับโฆษณา จดหมาย พยากรณ์อากาศ และรายงานการจราจร คูปอง และประกาศพิเศษต่างๆ ฝึกทำกับเพื่อนของคุณและเขียนคำถามให้อีกคนตอบสลับกันไป เป็นการฝึกตั้งคำถามแบบ wh-questions และยังเป็นวิธีดีเยี่ยมในการเรียนรู้สำนวนทั่วไปในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
  1. ใช้เวบไซต์ฟรี มีเวบไซต์มากมายที่คุณสามารถทำข้อสอบและดูตัวอย่างคำถามฟรี พิมพ์คำว่า TOEIC ลงในกูเกิ้ลและเริ่มฝึกฝน การเข้าไปหาข้อมูลในเวบเป็นวิธีที่ดีในการฝึกฝนการอ่านและการฟังของคุณ ถ้าคุณมีความสนใจในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง เช่น การเล่นสโนว์บอร์ด พิมพ์ลงไปในกูเกิ้ล คุณอาจต้องเรียนจากอินเตอร์เนตอย่างน้อยวันละชั่วโมง แค่ต้องมั่นใจว่าเรียนภาษาอังกฤษนะไม่ใช่เสียเวลาเล่นเกม
  1. สอนภาษาของคุณให้เจ้าของภาษา ถ้าคุณคิดว่าเรียนกับติวเตอร์แพงเกินไป คุณอาจรู้จักเจ้าของภาษาสักคนที่สนใจที่จะเรียนรู้ภาษาแม่ของคุณ บอกเขาว่าคุณจะสอนเขาฟรีสัปดาห์ละหนึ่งชั่วโมง คุณจะต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารและในเวลาเดียวกันคุณจะได้เรียนรู้คำศัพท์และสำนวนใหม่ การสอนภาษาให้ใครสักคนจะช่วยให้คุณเข้าใจหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษมากขึ้นด้วยเช่นกัน ทำอะไรก็ได้ที่คุณสามารถพูดกับเจ้าของภาษา
  1. อ่านวารสารภาษาอังกฤษ การอ่านวารสารภาษาอังกฤษไม่ได้ถือว่าเป็นกิจวัตรในชีวิตประจำวันของคุณ แต่คุณสามารถเขียนอะไรลงไปก็ได้ในวารสาร อาทิเช่น การเรียนของคุณเป็นอย่างไรบ้าง คำศัพท์ที่คุณชื่นชอบมีอะไรบ้างและทำไม หรือครูคนไหนที่คุณปลื้ม ถ้าคุณทบทวนข้อสอบ TOEIC กับเพื่อน รวบรวมหัวข้อการเขียนของแต่ละคนเอาไว้ คุณอาจตัดสินใจเขียนบทความสามครั้งต่อสัปดาห์ ให้เพื่อนพยายามหาข้อผิดพลาดของคุณ ในทางกลับกันพยายามหาข้อผิดพลาดจากการเขียนของเพื่อนด้วยจะเป็นการฝึกที่ดีเพื่อช่วยให้ในการทำข้อสอบส่วนที่ 5 และ 6
  1. ถามคำถาม อย่าลังเลที่จะถามคำถามเยอะๆ ในคลาสเรียน TOEIC นักเรียนทุกคนจะได้ประโยชน์จากคำถามของคุณด้วย หากคุณไม่เข้าใจบางอย่าง อย่างเช่นประโยคเงื่อนไข คุณอาจเสีย 10 คะแนนในข้อสอบ TOEIC ครูไม่ได้ว่างตลอดแต่นักเรียนอยู่ทุกที่ บางครั้งนักเรียนคนอื่นอาจช่วยแก้ปัญหาเรื่องไวยากรณ์ของคุณได้ดีกว่าครูเสียอีก
  2. อย่าเครียดเกินไป หากคุณรู้สึกเครียดกังวลเกี่ยวกับการสอบ TOEIC คุณอาจฝึกฝนหนักเกินไปหรือคาดหวังตัวเองมากเกินไป เหมือนกับทุกสิ่งอย่างในชีวิต เดินสายกลางไว้ เตือนตัวเองว่าคุณได้ทำดีที่สุดแล้ว ก่อนวันสอบจริงสูดหายใจเข้าลึกๆและจำไว้ว่าคุณสามารถทำคะแนนให้สูงขึ้นได้ภายในเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้า และในช่วงข้อสอบการฟังและการอ่าน สูดลมหายใจเข้าลึกๆสองสามครั้งเพื่อให้มีสมาธิมากขึ้น
  1. อย่าหักโหม คุณไม่ควรหักโหม (เรียนอย่างหนักในระยะเวลาอันสั้น) ช่วงกลางคืนหรือแม้แต่สัปดาห์ก่อนการสอบ TOEIC มีหลายสิ่งอย่างที่ต้องทำความเข้าใจในการสอบ TOEIC ช่วงสัปดาห์สุดท้ายควรจะเป็นเวลาสำหรับการทบทวน และการฝึกฝนมากกว่าการเรียนสิ่งใหม่เพิ่มเติม ต้องแน่ใจว่าคุณนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอในคืนก่อนวันสอบ ในวันสอบจริงกินให้อิ่มและพักสักสองสามชั่วโมงก่อนไปยังศูนย์สอบ ให้รางวัลตัวเองหลังสอบเสร็จด้วย

Credit:  www.fluentu.com/